หลบหนีความวุ่นวาย ทิ้งเรื่องหนักใจ แล้วไปคลายเหนื่อยซบไหล่คลื่นลมทะเลที่ Al Medina Beach House ที่พักตากอากาศริมทะเลสไตล์ Mediterranean โรงแรมลับๆ คอยให้การต้อนรับผู้ต้องการพักผ่อนอย่างเป็นมิตร ได้ซุกซ่อนตัวอยู่ ณ ปลายหาดคุ้งวิมาน จังหวัดจันทบุรี หากเดินทางมาจากกรุงเทพฯ หมุดหมายมายัง ถนนเลียบหาด คือถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็จะพบกันที่พักอาคารสีขาวสะอาดตาโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ชวนให้นึกถึงอาคารบ้านเรือนแบบโมรอค ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ริมหาดอันเงียบสงบ
ในยามที่ไม่สบายใจ เพียงได้อยู่นที่เงียบสงบ และเป็นส่วนตัว ก็กลับรู้สึกดีขึ้นเป็นปลิดทิ้ง Al Medina Beach House จึงเกิดขึ้นจากความรักและตั้งใจสร้างที่พักเพื่อให้ผู้ที่ต้องการมาพักผ่อนได้รู้สึกผ่อนคลาย และเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง โดยคุณโอ๋ อังคณา ผู้ก่อตั้งได้ไอเดียกับสถาปนิกและอินทีเรียร์ในการออกแบบที่ต้องการให้พักทั้ง 9 ห้องสามารถมองเห็นวิวทะเลอันไกลโพ้นได้สุดลูกหูลูกตา พร้อมออกแบบตัวอาคารโทนสีขาวห้อมล้อมด้วยสนามหญ้าสีเขียวเบื้องหลังท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ในยามที่พระอาทิตย์ตกดินท้องฟ้าเป็นเปลี่ยนเป็นสีวานิลลาช่างเป็นภาพที่สวยงาม และยากที่จะละสายตาเลยทีเดียว
สีสัน ความสวยงาม และเครื่องประดับผิวมันวาวเส้นแสงระยิบระยับ สะท้อนถึงการแต่งกายเสื้อผ้าอาภรณ์ของหญิงสาวชาวโมรอคโค ถูกนำมาเป็นเอกลักษณ์ในการตกแต่งที่พักที่ดึงคาแร็กเตอร์ของหญิงสาวหลากหลายสไตล์มาดีไซน์พื้นที่พักผ่อนให้ดูอบอุ่น อ่อนหวาน ชวนนอนฟังเสียงเสียงคลื่นและหลับใหลไปกับบรรยากาศของค่ำคืนอันแสนพิเศษ
ดื่มด่ำกับแสงของหมู่ดาวในยามราตรีแห่งการพักผ่อน และทิ้งตัวลงนอนในห้องพักจะพบกับการตกแต่งห้องในรูปแบบอาหรับโบราณ สไตล์ Mediterranean เพียบพร้อมด้วยของตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟลวดลายสวยสไตล์โมรอคโค ของตกแต่งกระจุกกระจิกสีสันสดใสได้กลิ่นอายทะเล ที่รับกับการแต่งห้องโทนสีขาวที่ไร้เหลี่ยมมุม จากการออกแบบห้องให้โค้งมนไปกับตัวห้องอย่างลงตัว เปลี่ยนบรรยากาศในห้องสี่เหลี่ยมแบบที่คุ้นเคยให้ดูนุ่มนวลชวนฝัน
ภายในที่พักขนาด 2 ชั้นถูกแบ่งห้องนอนแขกทั้งหมด 9 ห้อง โดยชั้นล่างแบ่งเป็น 5 ห้อง มีชื่อว่า Essaouira, Asilah, Rabat, Sa-Le’ และ Meknes และชั้นบนมีจำนวน 4 ห้อง ชื่อว่า Marrakech, Fez, Tangire และCasablanca ซึ่งแต่ละห้องเน้นตกแต่งให้ได้บรรยากาศแบบส่วนตัว พร้อมมองวิวทะเลพาโนรามาซีวิว ทั้งนี้ระหว่างทางเดินภายในที่พักจะพบกับของตกแต่งวางโชว์ความน่าสนใจไว้ให้กับแขกผู้มาเยือนได้ถ่ายรูป หรือชมความสวยงามได้อย่างอิสระ
ในส่วนของชั้นบนนอกจากสร้างเป็นห้องพักแล้ว ยังได้จัดเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่นที่เน้นการตกแต่งอันเรียบง่ายให้ความรู้สึกคลาย เสมือนนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่โปร่งโล่งในสไตล์นอร์ดิก เรียงรายด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งวินเทจ เช่น ตู้ไม้โบราณ โต๊ะ เก้าอี้ และชั้นวางของแบบรัสติก อีกทั้งยังสามารถเดินตามทางบันไดปูนฉาบสีขาวที่ออกกแบบให้โค้งไปตามพื้นที่ของสถาปัตยกรรมไปสู่ชั้นดาดฟ้าได้ทันที
ซึ่งการตกแต่งได้รักษาเส้นสายแบบ Moorish ที่พบได้ใน Medina ย่านเมืองเก่าประเทศ Morocco ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของคุณโอ๋ ที่ต้องการออกแบบที่พักให้เป็นดังพื้นที่แห่งจินตนาการในเมืองอันทรงเสน่ห์ที่โมรอคโคนั่นเอง
Al Medina จึงเป็นดั่งที่พักที่ให้เราได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับคนพิเศษ และได้ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านทั้งดีและร้ายของตัวเองอย่างถี่ถ้วนเพื่อก้าวสู่วันใหม่ด้วยพลังใจที่เต็มเปี่ยม ภายใต้แสงจันทร์ และสถานที่อันเงียบสงบ โดยมีคลื่นลมเอื่อยๆแผ่วเบา กับหาดทรายสีบรั่นดีคอยอยู่เป็นเพื่อนในวันที่อ่อนล้า