บ้านทรงตัว U ที่ซ่อนชั้น 2 ของบ้านไว้ด้วย Façade สีขาวซึ่งถูกปกคลุมด้วยต้นลดาวัลย์ ไม้เลื้อยที่รอวันออกดอก รอบตัวบ้านรายล้อมด้วยต้นไม้นานาพรรณที่เน้นการใช้ไม้ไทยที่มีกลิ่นหอม เผื่อว่าวันใดที่ต้นไม้ออกดอก ลมจะโชยกลิ่นหอมเข้าสู่ภายในบ้านให้ชื่นใจ ภายในแบ่งพื้นที่ใจกลางบ้านให้เป็น Courtyard สำหรับนั่งเล่น ชมสวน แบบเป็นส่วนตัว
การผสานความลงตัวระหว่างธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมเข้าด้วยกัน เกิดจากการพูดคุยของคุณปั๊ก – ศิรสิทธิ์ ศิริสวัสดิบุตร และคุณนุ้ย – วรารัตน์ วิเศษพงษ์พันธ์ เจ้าของบ้าน ร่วมกับคุณพิช และคุณแก้ว สถาปนิกจาก GLA.Design ที่ไม่เพียงแต่ออกแบบงานสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังดูแล ออกแบบทั้งการตกแต่งภายใน และภูมิทัศน์รอบตัวบ้านอีกด้วย ซึ่งคุณปั๊ก เจ้าของบ้าน และเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอส ไอ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง) เป็นผู้ดูแลเรื่องวิศวกรรมโครงสร้างของบ้านหลังนี้ด้วยตนเอง
จุดเริ่มต้นของการสร้างบ้านหลังนี้ คือ คุณปั๊ก และคุณนุ้ยมองว่าบ้านสำเร็จรูปในโครงการ ไม่สอดคล้องกับ Lifestyle ของทั้งคู่ ด้วย Function ของบ้าน และห้องแต่ละห้องที่ไม่ตอบโจทย์ ประกอบกับที่ดินเปล่าที่อยู่บนแปลงเดียวกันกับบ้านของคุณพ่อซึ่งได้รับเป็นของขวัญแต่งงาน จึงได้สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา
“SIRI House คือบ้านที่เพื่อน…ออกแบบให้เพื่อน” ในความเป็น Modern Lifestyle ของเจ้าของบ้านทั้ง 2 คนที่ชอบความโปร่ง โล่ง และเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังต้องการความเป็นธรรมชาติด้วย จึงเกิดเป็นบ้าน Modern Tropical รูปทรงตัวยูขึ้นมา “เป็น Requirement ของผมเองครับ เพราะว่าถ้าสังเกตบ้านในไทยทั่วๆ ไปเนี่ย ชอบจัดให้ด้านหลังบ้านอยู่ติดรั้วใช่ไหมครับ แล้วสวนก็อยู่ด้านหน้าบ้าน แต่สำหรับผม ผมมองว่ามันตลกนะ คือมันไม่ practical ผมสงสัยว่าทำไมเวลาที่เราอยากนั่งเล่นในสวนเราจะต้องออกไปนั่งอวดคนอื่นหน้าบ้านด้วย ก็เลยเกิดพื้นที่ Courtyard ตรงนี้ขึ้นมา เพราะว่าผมอยากจะมี Courtyard ที่ไพรเวท แล้วก็ใช้งานได้จริงครับ” คุณปั๊กเล่าถึงคอนเซ็ปต์ของการสร้าง Courtyard ใจกลางพื้นที่บ้าน
เหตุผลที่ SIRI House เป็นบ้านสไตล์ Modern Tropical เป็นเพราะบ้านหลังนี้มีการคำนวณทิศทางแดด ลม ฝน และสร้างบ้านให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศในพื้นที่นี้ ด้วยการหันหน้าบ้านไปทางทิศใต้เพื่อรับลม และหลีกเลี่ยงความร้อนจากแสงอาทิตย์โดยตรง อีกทั้งยังเลือกใช้กระจกเพื่อดึงธรรมชาติเข้าสู่ภายในบ้านอย่างจงใจ
ตัวบ้านแบ่งออกเป็น 2 ปีก เชื่อมกันด้วยทางเชื่อมแบบ Gallery ที่ด้านหนึ่งเป็นกระจกเปิดให้มองเห็น Courtyard สวน และบ่อปลาคาร์ปที่คุณปั๊กตั้งใจสร้างไว้ ส่วนอีกด้านเป็นกำแพงปิด แต่มีการเว้นช่องหน้าต่างขนาดเล็กระดับสายตาไว้ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยเวลาที่มีแขกมาหา ฟังก์ชั่นของบ้านมีการออกแบบเป็น Open Plan ที่เชื่อมต่อกันในทุกพื้นที่ของบ้าน ใช้หลักการซ่อนโครงสร้างบ้านบางส่วนเพื่อไม่ให้เสา หรือคานมาบดบังวิวธรรมชาติที่ทะลุผ่านกระจกเข้ามาภายในบ้าน เพื่อสร้างความกลมกลืนระหว่างภายนอก และภายใน
พื้นที่บริเวณชั้น 1 ของบ้าน แบ่งฟังก์ชั่นหลักเป็นห้อง Living Room ซึ่งเชื่อมต่อทั้งมุมนั่งเล่น และครัวเปิดเข้าด้วยกัน ตรงกลางระหว่างทั้ง 2 ห้อง ถูกกั้นไว้ด้วยชั้นวางบิลต์อินที่ถูกออกแบบให้เป็นช่องทะลุถึงกัน รวมทั้งสร้างลูกเล่นเล็กๆ ด้วยการทำส่วนติดโทรทัศน์ให้หมุนได้ เพื่อความลงตัวทั้งในเรื่องของ Function และ Lifestyle อีกฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่ส่วนซักล้าง เก็บของที่ไม่เรียบร้อย และส่วนครัวไทย รวมถึงเชื่อมต่อไปยังชั้น 2 อีกด้วย
เมื่อเดินขึ้นไปยังชั้น 2 จะพบกับห้องพระเป็นห้องแรก ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นชานพักขนาดกว้างได้โดยการเปิดประตูบานเฟี้ยมบริเวณห้องพระ หรือหากต้องการความสงบขณะสวดมนต์ก็เพียงแค่ปิดประตูบานเฟี้ยม ชั้น 2 จะประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง และห้องทำงานอีกหนึ่งห้อง โดยห้อง Master Bedroom ของคุณปั๊ก และคุณนุ้ยซึ่งแบ่งฟังก์ชั่นเป็นส่วนห้องนอน Walik-in Closet และห้องน้ำ โดยให้ความสำคัญกับ Walik-in Closet ที่มีขนาดใหญ่เกือบเท่าห้องอีก 1 ห้องเลยทีเดียว สำหรับห้องน้ำในห้อง Master Bedroom ก็สร้างกิมมิกด้วยการใช้กระจกเพื่อดึงสีเขียวของต้นไม้ในสวนส่วน Courtyard เข้ามาภายใน แต่ก็รักษาความเป็นส่วนตัวด้วยการสร้างผนังปิดส่วนด้านหลังอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการตกแต่ง และประดับห้องน้ำด้วยต้นไม้ขนาดเล็ก
More Detail
บริเวณที่เป็นกระจก Corner Glass สำหรับดึงบรรยากาศใน Courtyard เข้าสู่ตัวบ้าน ใช้ระบบเสาคานธรรมดา เพียงแต่ซ่อนเสาในพื้นที่ที่ขนานกัน และใช้สแปนขนาดยาวเป็นตัวเชื่อมคาน เพื่อสร้างความสมดุลให้โครงสร้างรวมถึงมีการสร้างประตูให้อยู่นอกกรอบแนวเสา และใช้โครงสร้างหลักเป็นตัวรับน้ำหนักแทน
บริเวณชั้น 2 ส่วนหน้า เป็นพื้นที่สำหรับติดตั้ง Façade และปลูกต้นลดาวัลย์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยสร้างสีเขียวให้กลมกลืนกับภาพรวมของบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นม่านกรองแสงอีกชั้นหนึ่งที่มีเสน่ห์อย่างมากด้วยความเข้มของแสงที่ส่องผ่านเข้าสู่ตัวบ้านในระดับที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงความหนาของพุ่มลดาวัลย์ สำหรับทางเชื่อมบริเวณชั้น 2 ของบ้านจะมีความแตกต่างกับชั้น 1 ด้วยการใช้กระจกทั้ง 2 ฝั่ง ไม่เพียงแต่เลือกใช้เพื่อความสวยงามเท่านั้น หากแต่ยังตอบโจทย์ในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยอีกต่างหาก
ในส่วนของการตกแต่งเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และสีในห้องด้วยสีเอิร์ธโทนที่ช่วยสร้างความกลมกลืนให้กับบ้าน และธรรมชาติรอบๆ มากยิ่งขึ้น วัสดุที่ใช้คือวัสดุเลียนแบบธรรมชาติ เน้น Neutral Tone เพื่อสร้างความสมดุล ผ่านการใช้หินทราวาลีนในส่วนกำแพงด้านหน้าที่จะเป็นตัวต้อนรับแขกผู้มาเยือน ด้วยสีเทาของหินที่ตัดกับสีขาวของตัวบ้าน และประตูกระจกที่เชื่อมกับห้อง Living Room โดยวัสดุที่ใช้ปิดผิวบ้านภายนอกในส่วนอื่นก็จะใช่สีเทาของหินในโทนเดียวกัน
บ้านแห่งนี้จึงเป็นพื้นที่ของธรรมชาติในความเป็นส่วนตัวที่แท้จริง ด้วยต้นไม้ที่รายล้อม เสริมกับสวนครัวที่ปลูกอยู่หลังบ้านเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร SIRI House แห่งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ของชีวิต และความเป็นตัวตนอย่างแท้จริง
Story อัญชิสา พ่วงทรัพย์
Photographer รัก ปลัดสิงห์
Host คุณศิรสิทธิ์ ศิริสวัสดิบุตร และคุณวรารัตน์ วิเศษพงษ์พันธ์
Architect & Interior Designer & Landscape GLA Design Co., Ltd โทร.02-409—5967, 02-409-5969