การสร้างบ้านหลังใหม่ ครอบบ้านหลังเก่า นอกจากความทรงจำในบ้านหลังเดิมยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลายแล้ว ฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านที่คุ้นเคย ยังมีคุณค่าทางจิตใจ ช่วยเพิ่มความสุข พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี แถมในระหว่างการสร้างบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องย้ายออกไปอยู่ไหนให้ลำบาก สามารถอยู่ในบ้านหลังเดิมได้อย่างสะดวกกาย สบายใจ “เพราะอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจ เท่าบ้านเรา”
The Beginning
เพราะพิษอุทกภัยครั้งใหญ่ เมื่อปี 54 ทำเอาบ้านหลังใหญ่บนทำเลย่านคู้บอน ได้รับผลกระทบอยู่ไม่น้อย แม้ไม่ถึงขั้นที่น้ำท่วมถึงตัวบ้าน แต่ด้วยพื้นที่ดินของบ้านที่ต่ำกว่าถนนเส้นหลักเรียกว่าลึกเป็นเมตร แม้ป้องกันนน้ำเข้าบ้านอย่างดีแล้ว แต่ก็ทำให้พื้นที่โดยรอบบ้านกลายเป็นแอ่งนำ้ ขนาดใหญ่ได้เหมือนกัน คุณท็อป วิทิต อัศววิภาส นักธุรกิจหนุ่มหล่อ เจ้าของบริษัทรับสร้างอาคาร บ้าน โรงพยาบาลโรงเรียน บริษัท กฤษณธัช จำกัด และในฐานะลูกชายคนโตของบ้าน จึงมีความคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ “เพราะพื้นที่บ้านเดิมต่ำกว่าถนนหลักมาก ช่วงน้ำท่วมใหญ่เลยเห็นได้ชัด และบ้านหลังเก่าก็อายุหลายสิบปีแล้ว ตอนแรกคิดจะขายบ้าน แล้วไปสร้างบนที่ดินใหม่แต่คุณพ่อคุณแม่ท่านก็รัก และผูกพันกับบ้านหลังนี้มาก ยังอยากอยู่ที่นี่ ผมเลยเปลี่ยนความคิดมา Renovate บ้านครั้งใหญ่ ภายใต้ข้อจำกัดที่ว่า เราจะสร้างบ้านยังไง ให้ในระหว่างที่สร้าง ครอบครัวของเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านได้ปกติ โดยไม่ต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น”
Inspiration
ด้วยความที่คุณท็อป เป็นคนรักครอบครัวมาก โจทย์ของการ Renovate บ้าน แม้จะเป็นอะไรที่ท้าทาย เพราะต้องสร้างบนพื้นที่จำกัด ไม่ทำลายโครงสร้างของบ้านหลังเดิม แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ เพราะคุณท็อปเน้นการสร้างเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว เรียกว่าคิดเผื่อต่อยอดในอนาคต โดยคุณท็อปใช้ประสบการณ์จากการเป็นบริษัทผู้สร้างบ้าน อาคาร ออกแบบบ้านทั้งภายใน ภายนอก และดำเนินการสร้างด้วยตัวเอง ภายใต้ความร่วมมือของสถาปนิกไฟแรงอย่าง คุณต๊ะ นที ธรรมเนียมจัด ที่มาช่วยออกแบบภาพรวมของบ้าน และช่วยตรวจสอบความเป็นไปได้ในเกือบทุกกระบวนการสร้างอย่างใกล้ชิด ออกมาเป็นบ้านเพื่อทุกคนในครอบครัวได้อย่างลงตัว ในสไตล์โมเดิร์น ลอฟต์ กลิ่นอายอินดัสเทรียลผสมผสานความคลาสสิกแบบไทยๆ เอาใจคุณพ่อคุณแม่
New look
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบไทยร่วมสมัย รวมกับพื้นที่สวน และสระว่ายน้ำขนาดปานกลาง ตั้งอยู่บนที่ดินผืนเดิมเนื้อที่ไร่กว่าๆ ถูกรีโนเวตขยายพื้นที่ให้เป็นส่วนเดียวกับโครงสร้างของบ้านหลังใหม่ทรงกล่อง ครอบคลุมส่วนบนของบ้านหลังเดิม แตกต่างด้วยเพดานสูงถึง 10 เมตร โดย Material หลักจะเน้นใช้หิน ปูน เหล็ก กระจก และไม้ ซึ่งเป็นวัสดุที่ช่วยลดความดิบ แข็ง ของบ้านกลิ่นอายลอฟต์อินดัสเทรียล ทั้งยังเป็นส่วนเชื่อมโยงเอาบ้านทั้ง 2 หลังผูกไว้ด้วยกัน ส่วนบ้านหลังเดิมที่โครงสร้างเป็นเพียงปูน และใช้ไม้เป็นส่วนประกอบในการตกแต่ง บางส่วนถูกทุบทิ้งไป แต่ยังมีอีกหลายส่วนยังคงถูกเก็บไว้ให้คิดถึงทุกครั้งที่มองเห็น และอีกหลายส่วนถูกดัดแปลง ก่อทับหรือซ่อนไว้ ภายใต้พื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นรวมกว่า 1,800 ตารางเมตร ซึ่งแต่ละห้องถูกแบ่งเป็นสัดส่วนไว้ชัดเจน และมีห้องที่รองรับการใช้งานอย่างหลากหลาย
ไม่ใช่แค่สไตล์ของบ้านเปลี่ยนไป หรือฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มขึ้น แต่บ้านหลังนี้ยังเพิ่มความเป็น Smart Home Smart Locks มากขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวก พร้อมช่วยเรื่องความปลอดภัยในทุกส่วนของบ้าน พร้อมออกแบบให้หลายๆ ส่วนช่วยประหยัดพลังงานได้ เช่น เปิดช่องแสงบนเพดานห้องโถงให้แดดส่องถึงสระว่ายน้ำภายในตัวบ้าน เป็นการลดความชื้น และให้แสงสว่างเวลากลางวันแทนการเปิดไฟ หรือการสร้างห้องกระจกไว้สำหรับตากเสื้อผ้าพร้อมกับเลือกติดตั้งคอล์ยร้อนจากการระบายความร้อนของเครื่องปรับอากาศไว้ภายใน ด้วยเหตุผลที่ว่าในเวลากลางคืนทุกห้องต้องเปิดเครื่องปรับอากาศนอนอยู่แล้ว จึงใช้ลมร้อนจากคอล์ยร้อนเพื่อเป่าเสื้อผ้าให้แห้งหลังจากการซักพร้อมรับแสงแดดยามเช้าที่ส่องผ่านเข้าห้องกระจก แทนการใช้เครื่องอบผ้า ซึ่งทำให้เสื้อผ้าหดตัว
Interior
ภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบภายในที่ไม่ตายตัวเท่าไหร่นัก เพราะเน้นตกแต่งในแบบที่ถูกใจคนใช้งานประจำในส่วนนั้นเป็นหลัก แต่ในทุกๆ ส่วนจะต้องมองดูเรียบง่าย ไม่เยอะ เหมาะสม และใช้งานได้จริง “การออกแบบภายในเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะเป็นบิลต์อิน ทั้งตู้ โต๊ะทานข้าว เตียง เคาน์เตอร์ครัว หรือพื้นไม้ ผมทำเองทั้งหมด อยากได้แบบไหนที่ดูพอดีกับบ้านไม่เยอะไม่น้อยเกิน ก็ทำเอง เพราะชอบบ้านที่โล่ง ให้เฟอร์นิเจอร์เข้ามุม หรือแปะชิดผนัง ส่วนวัสดุที่เป็นไม้ของบ้านเราจะใช้ไม้สักเกือบทั้งหมด เพราะเป็นความชอบส่วนตัวด้วย การตกแต่งภายในห้องต่างๆ ผมก็จะตกแต่งตามความชอบของคนที่ใช้งานห้องๆ นั้นมากที่สุด อย่างเช่น คุณแม่ชอบทำกับข้าว และใช้เวลาอยู่ในห้องครัวเป็นประจำ ห้องครัวผมเลยตกแต่งเป็นสไตล์ไทยๆ คลาสสิกหน่อยๆ แต่มีความโมเดิร์นพร้อมแทรกความลอฟต์นิดๆ ให้เชื่อมต่อกับห้องอื่นๆ ในบ้าน
ส่วนห้อง Play Room ถือเป็นห้องโถงส่วนกลางของทุกคนในบ้าน ส่วนนี้ผมใช้บ่อย และชอบมากที่สุด เลยออกมาในแบบที่เป็นตัวตนผม มีความโมเดิร์น ลอฟต์กลิ่นอายอินดัสเทรียลชัดเจน เพดานสูงโปร่ง โล่งสบาย โชว์วัสดุที่เป็นโครงเหล็กหิน ผนังบางส่วน สกิมทับแนวลอฟต์ กระจกทรงยาวบานใหญ่เปิดช่องแสงเข้าถึงเน้นที่ทุกอย่างเป็นสีด้านๆ ไม่มันวาว เฟอร์นิเจอร์ไม่เยอะ มีแค่โซฟาบนหญ้าเทียมริมสระว่ายน้ำ ที่แค่นั่งมองยังรู้สึกเย็น ผ่อนคลาย ให้อารมณ์เหมือนพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตเขาใหญ่ และโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่อีกฝั่งของสระน้ำ ที่คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้บ่อยๆ นั่งดูทีวีไป ฟังเสียงน้ำไหลจากสระว่ายน้ำ ในบรรยากาศสบายเงียบสงบ”คุณท็อปเล่าด้วยรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ที่ได้เห็นคุณพ่อคุณแม่มีความสุข
Function
“ทุกคนต้องได้ใช้งานในทุกๆ ส่วนของบ้านอย่างคุ้มค่า” อีกหัวใจสำคัญในการออกแบบบ้านของคุณท็อปคือการ “คิดเผื่ออนาคต” เตรียมพร้อมรับมือสำหรับการเปลี่ยนแปลง และใส่ใจความเป็นอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง “ผมมองว่าการมีบ้านหลังใหญ่ มีพื้นที่ หรือห้องว่างเยอะแต่ไม่ได้ถูกใช้งาน หรือบางทีแทบไม่ได้เดินผ่านเลยด้วยซ้ำ มันไม่มีประโยชน์ เหมือนเสียพื้นที่ไปเฉยๆ ผมเลยออกแบบให้ทุกพื้นที่ถูกบังคับใช้ หรืออย่างน้อยที่สุดต้องเดินผ่านทุกวัน บ้านหลังนี้จึงมีห้องไม่มาก แค่พอกับจำนวนกับสมาชิกครอบครัว ทุกๆ ห้องจะมีทางออก 2 ทางเพื่อความปลอดภัย และจะแบ่งโซนเป็นสัดส่วน เผื่อในอนาคตผมหรือน้องชายมีครอบครัว ก็สามารถใช้พื้นที่ทั้งฝั่งของตัวเองในเวลาที่ต้องการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ และเป็นส่วนตัว โดยไม่มีเสียงรบกวนกันเลย ห้องนอนของผมก็เช่นเดียวกัน แม้จะอยู่ใจกลางส่วนเดียวกับห้องโถง แต่ก็ไร้เสียงรบกวน เพราะผมออกแบบให้ห้องนอนซ่อนอยู่ภายในห้องของผมอีกที ซึ่งต้องเดินขึ้นไปอีกหนึ่งชั้นส่วนห้องของคุณพ่อคุณแม่นี่สำคัญสุด เพราะผมคิดเผื่อในเวลาที่ท่านอายุมากกว่านี้ ผมเว้นพื้นที่บางส่วนไว้ติดตั้งลิฟต์ เพื่อท่านไม่ต้องลำบากเดินขึ้นบันไดและทำทางลาดสำหรับรถเข็นไว้ด้วย ในห้องนอนเองเฟอร์นิเจอร์ก็จะให้อารมณ์แบบคลาสสิกไทยๆ แฝงความทรงจำดีๆ ด้วยการเอาเตียงเก่าที่เคยเป็นเตียงแต่งงานของท่านมาดัดแปลงเป็นหัวเตียง ตู้เสื้อผ้าก็เอาตู้ไม้ใบเก่ามาบิลต์อินไว้ในห้องเหมือนชุบชีวิตขึ้นมาใหม่
นอกจากห้องนอน ห้องโถง Play Room และห้องครัวแล้ว ยังมีห้อง Entertain ไว้ดูหนัง ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือ ในสไตล์ลอฟต์ ที่ทุกคนเข้ามาใช้งานร่วมกันบ่อยๆ ซึ่งห้องนี้ซ่อนอยู่ในส่วนโครงสร้างบ้านหลังเก่า เพดานสูงโปร่ง มีบันไดลิงให้ปีนขึ้นไปนอนอ่านหนังสือบน Net bed นอกจากนี้ยังมีสวนสนามหญ้าโล่งนอกบ้านที่ผมเว้นพื้นที่โล่งไว้ทำกิจกรรมร่วมกันบ่อยๆ ด้วย ถ้าถามผมว่าผมชอบห้องไหนมากที่สุด หรือครอบครัวเราได้ใช้พื้นที่ส่วนไหนร่วมกันมากที่สุด ผมตอบได้เลยว่าผมชอบทุกห้อง และพวกเราก็ได้ใช้งานทุกๆ ส่วนร่วมกันอยู่เป็นประจำเลยครับ” คงไม่ใช่เรื่องแปลก หากจะนิยามบ้านหลังนี้ว่าเป็น “ที่สุดของบ้าน” เพราะไม่ใช่แค่บ้านที่เป็นจุดศูนย์รวมของทุกคนในครอบครัวเท่านั้น หากยังสามารถตอบโจทย์การใช้งานอย่างคุ้มค่า ลงตัวสุดๆ และที่มากกว่านั้น มันเป็นความสุข ความภาคภูมิใจที่ทำให้การกลับมาบ้านทุกๆ วันมีความหมาย และไม่อาจประเมินค่าได้
Story อาทิติญาพร เงาศรี
Photographer กัณณ์ กาญจนประชาชัย
Host คุณวิทิต อัศววิภาส
Architect คุณนที ธรรมเนียมจัด
Interior & Builder บริษัท กฤษณธัช จำกัด Tel 085-222-3333