Back to home
In - Tect Spotlight, SPOTLIGHT

Back To Basic พื้นฐานความสุข คุณนุ้ย – สุจิรา อรุณพิพัฒน์

ความสุขของเราเมื่อก่อนคือการได้เที่ยว หรือหวังที่จะประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ มันไม่ใช่แล้ว ตอนนี้การมีลูกทำให้การใช้ชีวิตนุ้ยเปลี่ยนไป ในทุกๆ วันเราเห็นถึงความสุขได้ง่ายขึ้น การที่เราเห็นลูกเราอึทุกวันเราก็ดีใจแล้ว

คุณนุ้ย – สุจิรา อรุณพิพัฒน์ นางสาวไทยประจำปี 2544 บุคคลที่ทุกคนรู้จักกันดีผ่านผลงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสายพิธีกร หรือการแสดงก็ตาม โดยคุณนุ้ยเล่าถึงอาชีพที่เขารักว่า “การที่เราได้ทำสิ่งที่เรารัก เราจะไม่รู้สึกเหนื่อย เราจะไม่รู้สึกทำไมฉันต้องตื่นไปทำสิ่งนั้นอีกแล้ว จะไม่มีความรู้สึกนั้น มันมีแต่ว่าวันนี้เราจะได้ไปเจออะไรใหม่ๆ บ้าง ถ้าต้องไปเป็นพนักงานออฟฟิศนั่งโต๊ะมันก็คงไม่ใช่เราเหมือนกัน”

การค้นพบสายอาชีพที่เธอรักอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น ทำให้คุณนุ้ยเห็นประโยชน์อันสูงสุดจากตรงนั้น เกิดเป็นแรงมุ่งมั่น ตั้งใจส่งเสริมให้ทั้งลูกทั้งสองของเธอ น้องรดา – สิรดา และน้องรพี – เอกรพี หลีระพันธ์ รวมถึงเด็กทุกคนใน Thai International School (TIS) ให้ค้นพบความถนัดที่แท้จริงของตนเอง ซึ่งโรงเรียนอินเตอร์แห่งนี้มีคุณมัลลิการ์ แม่สามี และคุณชยพล หลีระพันธ์ ผู้เป็นสามีเป็นผู้ก่อตั้ง และมีเธอร่วมเป็นหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อน

แต่หากพูดถึงชีวิตวัยเด็กของคุณนุ้ยเอง ก็เคยผ่านการเป็นเด็กที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกนัก โดยผ่านการบ่มเพาะแบบไร้ตำรา ไร้แพทย์ที่ปรึกษา คุณนุ้ยกล่าวว่าคุณแม่ของเธอเลี้ยงดูเธอด้วย “การใช้สัญชาตญาณความเป็นแม่ล้วนๆ ซึ่งต่างกับนุ้ยที่จะปรึกษาคุณหมอตลอด” แต่สิ่งที่เธอรับรู้ได้เสมอมาก็คือ “สิ่งที่แม่เลือกให้เรา จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ” ไม่ว่าจะเป็นหยิบยื่นเครื่องดนตรีซออู้ให้เธอเล่นเพื่อเสริมสร้างสมาธิให้สงบนิ่ง การเอาส่วนที่ดีที่สุดของปลาให้เธอทาน และห้ามปรามเธออย่างเป็นเหตุเป็นผล

นั่นเป็นสิ่งที่เธอซึบซับเข้าสู่ภายในจิตใจ จนทำให้เธอละทิ้งตัวตนเมื่อได้มีบุตรสาวคนแรก น้องรดา อายุ 2 ขวบ และบุตรชาย น้องรพี ที่พึ่งกำเนิดเมื่อกันยายนที่ผ่านมาพร้อมกับคำนิยามแห่งชีวิตใหม่ว่า “การไม่มีตัวตน ตัวตนเราไม่มีอีกแล้ว ความสุขของเราไม่ได้มาจากตัวเราแล้ว ความสุขของเรามาจากเด็กสองคน พวกเขาคือความสุขของเรา”

ความสุขของน้องรดาเป็นดั่งที่ตั้งของความสุขทั้งหมด ความคาดหวังเดียวของคุณนุ้ยมีเพียงอยากให้น้องรดาค้นหาสิ่งเขารักได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ข้อแม้คือน้องต้องมีความสุขกับสิ่งๆ นั้น การสนับสนุนของคุณนุ้ยจึงอยู่บน ‘พื้นฐานของการให้ลูกไปลอง ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร เรียนเพื่อให้ได้รู้จัก’

สำหรับการส่งเสริมพัฒนาการ คุณนุ้ยพยายามทำให้น้องรู้ว่า โลกใบนี้นั้นช่างน่าค้นหา “โดยเน้นให้เขาสัมผัสประสบการณ์จริงเพราะจะช่วยให้เขาจำได้ง่าย เรียนรู้ได้เร็ว และการที่เอาตัวเขาออกไปแทนที่จะอยู่กับมือถือ เพราะความเป็นจริงเขาต้องอยู่กับคนอื่นได้ เราอยากให้เขาเป็นคนที่อยู่ในสังคมอย่างมีคุณภาพ” โดยเน้นเรื่องมารยาทเพื่อให้เป็นที่รักของผู้ใหญ่

 

My happiness does not come from myself or my actions anymore, but from these two little people. Both of them become my onlyhappiness.”

อีกหนึ่งพื้นฐานที่คุณนุ้ยค้นพบโดยบังเอิญคือ ความเชื่อใจ ที่เกิดจากการคุยด้วยความเป็นจริงทุกอย่าง คุณนุ้ยไม่เคยหลอกน้องรดาโดยไม่มีเหตุผล อย่างเช่น ‘ถ้าไม่กลับบ้านตำรวจจะจับ’ หรือ ‘ถ้าอมข้าวตุ๊กแกจะกินตับ’ เพราะคุณนุ้ยเชื่อว่า “การใช้เหตุผลหลอกทำให้เมื่อโตขึ้นเขาก็จะใช้เหตุผลหลอกๆ กับคนอื่นเช่นกัน”

คุณนุ้ยพูดถึงการเลี้ยงลูกอีกว่า “ต้องอาศัยความใจเย็นซึ่งขัดกับตัวเองมาก ต้องเย็นยิ่งกว่าน้ำทะเลในอลาสก้า เพราะด้วยวัยก่อนแปดขวบ กระบวนการของสมองเรื่องหลักตามเหตุและผลจะยังไม่สมบูรณ์แบบ ทำให้เราต้องใช้เวลาในการสอนเขา ต้องพูดย้ำ วันนี้ทำได้แล้ว พรุ่งนี้เขาลืม เราต้องเริ่มใหม่ รวมถึงต้องระงับความโกรธของตัวเอง”

จากตรงนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคุณนุ้ยเป็นคุณแม่ที่พร้อมสนับสนุนน้องรดาด้วยความรัก ความหวังดีสูงสุด พร้อมทำให้คุณนุ้ยค้นพบความสนุกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน Thai International School (TIS) และเล่าถึงตำแหน่งตัวแทนผู้ปกครองของเธอว่า “เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเรายังไง เด็กทุกคนก็จะได้อย่างนั้น แต่ไม่ใช่ว่าเอาน้องรดาเป็นแกนกลาง โดยพร้อมรับฟังผู้ปกครองเพราะก็เหมือนทำเพื่อลูกเราเองด้วย” และควบการดำรงอีกตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ เพื่อทำหน้าที่ให้คนรู้จักโรงเรียนมากขึ้นด้วยจุดเด่น เช่น การศึกษาที่ใช้หลักสูตรอเมริกัน แต่ผสมผสานความเป็นไทย ทำให้เด็กมีความคิด กล้าแสดงออก แต่ไม่ละเลย วันสำคัญของไทย การไหว้ รวมถึงมารยาท พร้อมทีมบริหารที่มีประสบการณ์อย่างเชี่ยวชาญ โดยเน้นเรื่องการส่งเสริมตามความถนัดของเด็ก คุณนุ้ยกล่าวว่า “โรงเรียนนี้จะไม่มีคำว่าเด็กไม่ฉลาด จะมีแต่คำว่าทุกคนถนัดอะไรมากกว่า”

เมื่อกล่าวถึงการเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนเธอบอกว่า “เราก็ไม่เคยคิดหรอกว่าเราจะต้องมาทำงานในโรงเรียน เพราะเมื่อก่อนเราก็เป็นเด็กเกเรเหมือนกัน รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้มีโรงเรียนนี้ ทำให้เด็กๆ มีที่เรียนเพื่อพัฒนาตัวเอง รวมถึงการปลูกฝังกระบวนความคิด เหมือนเป็นการดูเด็กโตไปด้วยกันพร้อมๆ กับลูกของ” ซึ่งความตั้งใจทั้งหมดล้วนบ่งบอกถึงความสุขการใช้ชีวิตของผู้เป็นแม่ในแบบคุณนุ้ย – สุจิรา อรุณพิพัฒน์ อย่างแท้จริง

Story นิชาภา โตยิ่งเจริญ
Photography อรรถพงค์ สมวงศ์
Place Thai International School โทร. 02 666 1919

Facebook Comments
By Oom, 01/06/2018
Leave a Reply
Change language:
Instagram API currently not available.
Instagram API currently not available.