การเรียนรู้… คือที่สุดองค์ประกอบสำคัญ ที่จะทำให้นักออกแบบบรรลุความเข้าใจในการทำงานได้อย่างราบรื่น
การค้นพบแกนสำคัญของการเป็นนักออกแบบ ที่คุณโบว์ – หัทยา ลิขิตวัฒนานุรักษ์ พบเป็นเหมือนบทเกริ่นที่นำเข้าสู่ผลงานที่หลากหลาย ทั้งในส่วนของ แบรนด์ดิ้ง อินทีเรียร์ และงานสถาปัตยกรรมระดับคอมเมอร์เชียลจากลูกค้าทั้งในประเทศไทย อาทิ บริษัทอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ธนาคารกสิกรไทย ร้าน Greyhound Cafe รวมถึงลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
ใบปริญญาบัตร สาขาวิชาศิลปอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่เธอได้รับจึงเป็นเหมือนบทนำเรื่องราวของการเป็นดีไซเนอร์ของคุณโบว์ “โชคดีที่โบว์ได้เรียนที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังซึ่งมีมุมสำหรับเวิร์กช็อปให้นักศึกษามีโอกาสได้ลงมือปฏิบัติจริง ทำให้เราได้พบอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานและมีโอกาส แก้ไข รับมือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น มากกว่ากลุ่มนักศึกษาที่เรียนเฉพาะเรื่องการออกแบบแต่ไม่ได้ออกแบบจริงๆค่ะ” คุณหัทยา เล่าถึงสิ่งที่สถาบันมอบให้เธอ
จากการได้จับต้องงานจริงจนทำให้สาวไฟแรงมองภาพรวมเป็น พร้อมกับเริ่มรับงาน จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นสตูดิโอรับออกแบบในช่วงปีที่ 4 ของช่วงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย แม้จะมีสตูดิโอเป็นของตัวเอง แต่คุณโบว์ก็ยังคงเห็นความสำคัญของการศึกษา จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ ในสาขา Business Administration (Executive)
“การเรียนรู้ที่ได้ลงมือทำจริงเป็นแหล่งที่มาของความเข้าใจ และ ‘รอยรั่วของงานออกแบบ’ ทำให้ Over Expect Studio ของคุณโบว์มีจุดแข็งที่ต่างไปจากสตูดิโออื่น” คุณหัทยาสรุปสิ่งที่ได้รับจากการเรียนรู้ พร้อมกับบอกว่า “คือทุกขั้นตอน การทำงาน เราควบคุมการผลิต ทดลองทำ และคลุกคลีอยู่กับช่างด้วยตัวของเราเอง นั่นทำให้เรานำไอเดียที่พบมาต่อยอดได้ดีขึ้น”
นอกจากสนุกกับการออกแบบชิ้นงานที่มีความโดดเด่น และแตกต่างแล้วนักออกแบบสาวยังมีมุมมองเกี่ยวกับลูกค้าที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย “โบว์คิดว่าการพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างลูกค้า และนักออกแบบ เป็นโจทย์ใหม่ที่ท้าทาย ในการแสวงหาจุดลงตัวในชิ้นงานออกแบบที่เหมาะสม ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาตัวเอง และทีมที่เคมีตรงกันอยู่เสมอ”
นั่นทำให้ในทุกๆ ชิ้นงานของเธอมีความภาคภูมิใจก่อตัวอยู่ ส่วนความสุขใจนั้นจะมีปริมาณมากที่สุดก็ต่อเมื่อโจทย์ที่ช่วยกันขบคิดตอบสนองความต้องการของลูกค้า และกระตุ้นแรงขับเคลื่อนให้ทีม ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอมองภาพอนาคตจากการทำงานแบรนด์ดิ้ง เฟอร์นิเจอร์ เทิร์นคีย์มานับไม่ถ้วนว่า “โบว์ก็คงอยากเป็นดีไซเนอร์ต่อไปค่ะ เป็นแม่ที่กระเตงลูกไปทำงาน และอยากให้ Over Expect Studioเป็น one stop service ที่ลูกค้านึกถึงเป็นที่แรก มองเราเป็นที่ปรึกษา แล้วก้าวเข้ามาแชร์เรื่องราวกัน”
นักออกแบบสาวไฟแรงอธิบายเพิ่มเติมว่า “คือทุกครั้งที่มาหาเรา จะเป็นเหมือนการได้เปิดหนังสือ เพียงเล่มเดียวก็สามารถเรียนรู้การทำงานของอินทีเรียร์ดีไซน์ได้ทั้งหมด” นั่นเป็นความเข้าใจที่เธอไม่เคยละเลย และพยายามถ่ายทอดออกมาให้ทุกคนที่ร่วมงานเข้าใจการจบงานในรูปแบบ ‘ก้าวไปด้วยกัน’ ซึ่งคุณโบว์กล่าวว่า “แม้การทำงานของดีไซเนอร์จะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิตก็จริง แต่เราก็ต้องพร้อมช่วยลดปัญหาระหว่างโอนเนอร์กับผู้รับเหมา เพื่อร่วมสร้างสรรค์การทำงานเป็นทีม ตอบโจทย์ให้งานออกมาเร็ว เรียบร้อย และสวยงามค่ะ”
นอกจากการรวมความเข้าใจของทุกฝ่ายจนกลายเป็นจุดแข็งที่ขับเคลื่อน Over Expect Studio ให้ทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งแล้ว การเรียนรู้จุดแข็งจากสิ่งที่อยู่รอบๆตัว และทุกที่ที่คุณหัทยาได้ไปเยือน ล้วนเป็นโอกาสที่เธอสร้างขึ้น เฉกเช่นการร่วมมือครั้งใหม่กับ Nortis Group ผู้นำนวัตกรรมด้านพลังงานทดแทนในเมืองไทย ที่หยิบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) มาเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานให้แตกต่างจากรูปแบบเฟอร์นิเจอร์แบบเดิมๆ ซึ่งเป็นการร่วมพัฒนาออกแบบเฟอร์นิเจอร์พร้อมกับ คุณประภารัตน์ ตังควัฒนา ประธานกรรมการบริษัท นอร์ตีส เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด และทีมงานกราฟิกดีไซน์ และทีมวิศวกร ของบริษัทโดยตั้งใจให้เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่มีความ Timeless ในทั้งด้านดีไซน์ และการใช้งาน และนั่นก็นับเป็นอีกบทของเรื่องราวที่ถูกแต้มในหนังสือแห่งความเข้าใจของคุณโบว์นักออกแบบผู้ที่หมั่นเติมเต็มให้สมบูรณ์อยู่เสมอ เพราะการเรียนรู้เป็นบทนำสู่บทเรียนที่ยังเหลืออยู่อีกมากมายบนโลกใบนี้
Story นิชาภา โตยิ่งเจริญ
Photographer พัชรกร เสนยิ้ม
