Back to home
cafe, GARDEN, OTHERS, Somewhere

Thé Tea House ศิลปะ กลิ่นชา และนาฬิกาทราย

หนึ่งในย่านที่ภาพความเป็นเมืองหลวง สะท้อนออกมาผ่านสถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตได้ชัดเจนที่สุดอีกย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ อย่างทองหล่อ ยังมีร้านน้ำชาเล็กๆ แอบซ่อนตัวเองท่ามกลางตึกสูง เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับแขกที่ได้มาเยือนให้ได้ลืมเรื่องราววุ่นวายภายนอกสักครู่ และดื่มด่ำกับกลิ่นชาชั้นดี ขนมอบ และเฟอร์นิเจอร์เก่าที่อบอวลอยู่ภายในพื้นที่แห่งนี้

Thé Tea House (เตทีเฮ้าส์) ทองหล่อ คือสาขาลำดับที่ 3 ถัดจากสาขาหัวหิน และช่างชุ่ย โดยแต่ละสาขาจะมีกิมมิคการตกแต่งที่ต่างกันออกไป สำหรับสาขานี้คอนเซ็ปต์การออกแบบเป็นเหมือนการจำลองคาเฟ่เล็กๆในกรุงปารีสมาไว้ในกรุงเทพฯ โดยยังอยู่ภายใต้ความเป็นเต นั่นก็คือ ของสะสม เซรามิค และชาจากฝรั่งเศส

ด้วยความเป็นนักเดินทางของเจ้าของร้าน เฟอร์นิเจอร์ยุโรปโบราณ ถ้วย แก้ว ชาม ตู้ คือชิ้นส่วนความทรงจำที่เป็นรูปธรรมที่เขานำกลับมาตกแต่งร้านในการออกเดินทางไปในแต่ละที่ ของแต่ละชิ้นต่างยุค ต่างถิ่นที่มา ทำให้พื้นที่ภายในร้านเหมือนภาพคอลลาจ ที่ปะติดประต่อประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก ที่แตกต่างกันแต่ละยุค ประกอบเข้าไว้เป็นเรื่องเดียวกัน

โดย วอลเปเปอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน พิมพ์ลายบรรยากาศของยุคคริสต์ศตวรรษ 19 “La Belle Epoque” ของฝรั่งเศสที่มีความหมายว่า“ช่วงเวลาอันงดงาม” เนื่องจากเป็นยุคที่ศิลปะ วรรณกรรม และปรัชญาของปารีส เฟื่องฟูเรียกได้ว่าเป็นยุคสมัยแห่งภูมิปัญญาของยุโรปตะวันตกเลยก็ว่าได้ แต่ทว่าหลังจากที่ดอกไม้แห่งภูมิปัญญาดอกนี้ผลิบานได้ไม่นาน ก็เกิดสงครามครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนโฉมการเมืองโลกไปตลอดกาล แต่ทั้งนี้ร่องรอยความสวยงามเมื่อเสียงระเบิดสิ้นสุดลง ก็ยังคงถูกถ่ายทอดอยู่ให้เราเห็นจวบจนถึงปัจจุบัน

หนึ่งในนั้นคือ ศิลปะนีโอคลาสสิก (Neo-Classicism) ซึ่งเป็นงานศิลปะที่รุ่งเรืองอย่างมากในฝรั่งเศสยุคดังกล่าว ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และปฏิวัติฝรั่งเศสในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 มีรูปแบบที่ลดทอนรายละเอียดที่หรูหรา ฟุ่มเฟือยของศิลปะยุคก่อนๆลง และนำแนวคิดความงามอุดมคติของศิลปะกรีกและโรมันมาใช้ มีอิทธิพลต่อทั้งงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ตลอดจนเครื่องเรือน ซึ่งแน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นภายในร้านก็มาจากศิลปะสไตล์นี้เช่นกัน ซึ่งนอกจากสไตล์นีโอคลาสสิกแล้ว ภายในร้านยังมีการผสมผสานเฟอร์นิเจอร์ไม้ดัดโค้งหรือ bentwood ของ Michael Thonet จากคริสต์ศตวรรษที่ 19 ช่วยเพิ่มความอบอุ่น และเป็นกันเองให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

อีกครึ่งหนึ่งของร้านออกแบบให้เป็นกลาสเฮ้าส์ กระจกช่วยให้แสงธรรมชาติจากภายนอก เข้ามาสร้างมิติ และอารมณ์ที่เปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงเวลาที่ต่างกัน อย่างถ้ามานั่งตอนกลางวันก็จะให้อารมณ์ที่อบอุ่น สดในเหมือนได้นั่งอยู่ในสวน ท่ามกลางพรรณไม้ เห็นแสงสะท้อนคริสตัลของแชนเดอเลียร์เป็นรุ้ง แต่ถ้าเป็นช่วงเวลากลางคืน ก็จะเห็นเงาสะท้อนแชนเดอเลียร์สีส้มสลัว ในกระจกให้บรรยากาศที่โรแมนติกไปอีกแบบ

นอกจากบรรยากาศ และเฟอร์นิเจอร์แล้ว อีกสิ่งที่พาเราให้ดำดิ่งเข้าสู่ภวังค์ของความผ่อนคลาย นั่นก็คือชาของทางร้าน ที่ใช้ชาที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดของโลกที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ค.ศ. 1854 ในฝรั่งเศส อย่าง มารียาจค์ แฟรร์ (Mariage Freres) รินอยู่ในแก้ว Bone China ที่จัดว่าเป็น Ceramic Tableware ระดับสูง เพราะด้วยกรรมวิธีการผลิตที่ไม่ธรรมดา ที่มีการผสมเถ้ากระดูกสัตว์ลงไปกรรมวิธีผลิต ทำให้มีเนื้อที่บาง และเบา แต่แข็งแรง โปร่งแสง มีสีขาวงาช้าง เมื่อเคาะจะเกิดเสียงก้องกังวาน ซึ่งว่ากันว่าช่วยให้รสชาติของชาไม่เพี้ยน ส่วนของการเสิร์ฟชาจะมาพร้อมกับนาฬิกาทราย ที่ไม่ได้ให้มาเพื่อเป็นพร๊อพเท่านั้น แต่มีไว้จับเวลาเพื่อบอกเวลาที่เหมาะสมที่เราจะเริ่มจิบชา เพราะเมื่อทรายเม็ดสุดท้ายตกลงจากด้านบน รสชาติที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้น ณ ช่วงเวลานั้น


ถัดจากรสสัมผัส ทางเจ้าของร้านมองว่ามิติของกลิ่นก็ถือเป็นการงานอินทีเรียดีไซน์อย่างหนึ่ง ที่ช่วยสื่อสารความเป็นตัวตนของร้านไปสู่ลูกค้าได้ จึงตั้งใจนำเตาอบขนมมาไว้นอกครัว เพื่อให้กลิ่นหอมของเบเกอรี่ที่อบใหม่ส่งกลิ่นฟุ้ง เคล้าไปกับกลิ่นชาชั้นดีไปทั่วทั้งร้าน เกิดเป็นประสบการณ์การดื่มชาที่พาเราย้อนไปสัมผัสความสวยงามในอดีตอย่างสมบูรณ์แบบ

Story ธนภัทร อีสา
Photography นพพร ยรรยง
Place Thé Tea House ทองหล่อ โทร. 090 645 9519

Facebook Comments
By Oom, 28/05/2018
Leave a Reply
Change language:
Instagram API currently not available.
Instagram API currently not available.