Back to home
Beautiful Home, HOME

The memories of Harmony house สุขเรียบง่าย ในกล่องแห่งความทรงจำ

 

นิตยสาร Life and Home ฉบับนี้จะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักกับเจ้าของบ้านสวยอีกหลังหนึ่ง ผู้ที่ให้คำนิยามถึง “บ้าน” ของเขา สั้นๆ ง่ายๆ แต่สื่อได้ล้านความหมายว่า “ความสุข คือ บ้าน” ผู้ที่จะทำให้เราเชื่อว่าความสุขมันสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ผ่านวิธีคิด(บวก) และการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย “คุณไพโรจน์ ชื่นครุฑ” ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด (มหาชน)

ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
ด้วยท่าทีสบายๆ คำพูดเรียบง่าย บวกกับรอยยิ้ม และน้ำเสียงเป็นกันเอง เป็นการปรากฏตัวของผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “บิ๊กบอสแห่งกรุงศรีออโต้” สำหรับการพบเจอกันครั้งแรก ถือเป็นการแสดงออกที่หมายถึงการ “ยินดีต้อนรับ” ได้อย่างจริงใจเลยทีเดียว จนกลายเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง หากจะให้เรานึกถึงมาดของผู้บริหารระดับสูง ที่ต้องขับเคลื่อนกำลังพลกว่า 5,000 คน รวมถึงบทบาทหน้าที่ที่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ สำหรับคุณไพโรจน์ ชื่นครุฑ จึงนับว่าเป็นผู้บริหารอีกหนึ่งท่าน ที่ทำให้เราอยากพิสูจน์ว่า ในบทบาทที่ไม่ธรรมดา ภายใต้ความกดดัน ความความหวัง และความท้าทายมากมายนั้น อะไรคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ชีวิตดำเนินไปได้อย่างลงตัว และเขาพบเจอความสุขในทุกช่วงเวลาได้อย่างไร

Work – Life Balance
“สิ่งสำคัญในการบริหารงานหลากหลายบทบาท ที่ต้องพบเจอแตกต่างกันไปในแต่ละวัน นั่นคือ รู้จักลำดับความสำคัญของงาน รู้จักบริหารจัดการเวลา บริหารทีมเวิร์ก เพื่อให้ทีมเดินหน้าไปพร้อมๆ กันได้อย่างราบรื่น เราเน้นเรื่อง Leadership และ Positive Thinking มากๆ นั่นคือทุกคนต้องเป็นผู้นำได้ และมีทัศนคติที่คิดบวกอยู่เสมอ ซึ่งผมยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันสามารถเป็นไปได้ เพราะถ้าทุกคนมีทิศทาง และเป้าหมายเดียวกัน นั่นจะทำให้งาน Flow ขึ้น ง่ายๆ คือ งานลงตัว มีเวลาเหลือมากขึ้น ชีวิตเริ่มสมดุล ความสุขก็เกิดขึ้นได้ง่าย” คุณไพโรจน์ เล่าด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลา เป็นพลังบวกที่สะท้อนออกมาจนเรารู้สึกได้

ความสุข = บ้าน
เชื่อว่าทุกคนบนโลกนี้ ต้องมีเรื่องง่ายๆ ใกล้ๆ ตัว ที่ทำให้เรายิ้มได้ สำหรับคุณไพโรจน์แล้ว “บ้าน” คือรอยยิ้ม และความสุขของเขา สถานที่ที่ทำให้นึกถึงเป็นอันดับแรกหลังจากเลิกงาน อยู่แล้วอบอุ่น สบายใจ หายเหนื่อย หลากหลายความรู้สึกที่ทำให้รู้ว่า บ้านมีความหมายกับชีวิตของเขามากมายแค่ไหน “ผมเองมีบ้านอยู่หลายหลัง ทุกหลังจะเน้นการอยู่อาศัย และการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ทั้งบ้านที่เป็นจุดศูนย์กลางของคนในครอบครัว ซึ่งผมอยู่เป็นหลัก บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และบ้านที่ตอบโจทย์ชีวิตเราได้มากที่สุด เหมือนเป็นการหล่อหลอมทุกฟังก์ชั่น และความรู้สึกของบ้านทุกหลังที่ผมมีไว้ด้วยกัน ซึ่งบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเรื่องราว ความทรงจำ และความผูกพัน ระหว่างผม กับคุณพ่อคุณแม่”คุณไพโรจน์ กล่าว

เรือนไทย ใจกลางเมือง
บ้านที่เป็นมากกว่าบ้าน ที่คุณไพโรจน์พูดถึงนั้น คือ บ้านเรือนไทยใจกลางเมือง บนพื้นที่ 100 ตารางวา ที่เรียกว่าไม่เล็กไม่ใหญ่ ให้ความอุบอุ่นใจได้กำลังดี แม้จะไม่ใช่บ้านหลังแรก แต่คุณไพโรจน์ก็รู้สึกรัก ผูกพัน และภาคภูมิใจกับบ้านหลังนี้อยู่ไม่น้อย “อันดับแรกที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพราะชอบทำเล บวกกับขนาดของที่ดินที่พอดี และสามารถตอบโจทย์ชีวิตผมได้

ขณะที่ในส่วนของโครงสร้างบ้านหลังเดิม ครั้งแรกที่เห็น ผมมองแค่ผิวเผินว่าเป็นบ้านทรงไทยๆ ตอนนั้นก็รู้สึกเฉยๆ เพราะสภาพบ้านทรุดโทรมมาก ชั้นล่างเป็นปูนถูกปิดทึบหมด ส่วนชั้นบนเป็นไม้หลังคาจั่วทรงไทย ความคิดแรกคือคือผมคงต้องรื้อบ้านเดิมทิ้ง และสร้างใหม่ แต่หลังจากที่ได้เข้าไปดูบ้านอีกครั้ง พร้อมกับเพื่อนที่เป็นสถาปนิก ทำให้ได้เห็นรายละเอียดบ้านมากขึ้น และรู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านเรือนไทยภาคกลาง ใต้ถุนสูง ที่เจ้าของเดิมยกมาจากจังหวัดราชบุรี ซึ่งตกทอดมาจากรุ่นคุณย่า และไม่ได้ใช้งานมาเกือบ10 ปี ส่งผลให้ภายนอกดูโทรมมาก แต่พอได้ดูภายในบ้านจริงๆ แผ่นไม้เกือบทุกแผ่น ยังสวย สภาพดี และแข็งแรงมาก ความที่ผมชอบบ้านเรือนไทยอยู่แล้ว จึงตัดสินใจเก็บบ้านไว้ และตั้งใจชุบชีวิตมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง”

 

Quotation
บ้าน ที่หลอมรวมทุกเรื่องราวความรู้สึก ความสุข ความทรงจำ ของเราไว้ด้วยกัน พร้อมตอบโจทย์การใช้งานได้ครบทุกฟังก์ชั่น นั่นไม่ใช่แค่บ้าน แต่มันหมายถึง “ชีวิต” – คุณไพโรจน์ ชื่นครุ

 

“ทำลายอย่างสร้างสรรค์”
จากพื้นที่ทั้งหมดของบ้านเรือนไทย “ใต้ถุนบ้าน” ดูจะเป็นงานรีโนเวตที่ต้องคิดหนักมากที่สุด เพราะหลังจากทุบส่วนผนังปูนเดิมทิ้ง เผยให้เห็นเพียงเสาหลักรอบๆบ้านในลักษณะที่เอนเข้าหาตัวบ้านคล้ายกับค้ำตัวบ้านไว้ นอกนั้นก็เป็นพื้นที่โล่ง ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และเสน่ห์ของบ้านเรือนไทย ดังนั้น หากจะให้ตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบัน และใช้งานทุกพื้นที่อย่างคุ้มค่า โดยยังรักษาบรรยากาศของใต้ถุนบ้านไว้ ทางออกก็คงเป็นการประยุกต์ใช้ให้เกิดความร่วมสมัย เติมความโมเดิร์นลงไป และปล่อยให้ Mood and Tone ของความธรรมชาติ ทำหน้าที่เชื่อมโยงทั้งสองยุคเข้าไว้ด้วยกัน

“สิ่งที่ผม และเพื่อนสถาปนิกช่วยกันออกแบบ ก็คือการสร้างกล่องไว้บนพื้นที่โล่งใต้ถุนบ้าน เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นหลักได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน และสร้างให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของเมืองไทย ที่ต้องเจอทั้งแดด ลม ฝน หรือแม้แต่ยุงก็ตาม แต่กล่องที่ว่านี้จะไม่ปิดทับส่วนของเรือนไม้ หรือเสาไม้ภายนอก เพราะยังต้องการโชว์ให้เห็นเสน่ห์ของบ้านไว้

“ขณะที่ตัวกล่องสีขาวจะเป็นลักษณะของห้องสี่เหลี่ยม แต่เจาะช่องหน้าต่างบ้านใหญ่ไว้โดยรอบพร้อมกับติดกระจกหน้าหน้าต่างบานฟิกซ์ กรอบอะลูมิเนียมสีดำสไตล์โมเดิร์น ทรงกว้างแนวนอนบานใหญ่ เพื่อช่วยเพิ่มช่องแสง และสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้อย่างเต็มตา ราวกับไร้กระจกกั้น อีกทั้งจะช่วยให้ห้องภายในดูโล่ง โปร่งและกว้างขึ้น “สำหรับไอเดียในการติดตั้งม่านบังแสง ภรรยาของผมเลือกใช้ม่านมู่ลี่แทนการใช้ผ้าม่าน เพราะสามารถใช้งานในฟังก์ชั่นที่หลากหลายได้ จะเปิดทั้งหมดเพื่อรับแสงเต็มๆแบบไม่มีอะไรขวางสายตา หรือจะปิดทึบเพื่อบังแสง หรือเปิดแค่ครึ่งเดียวก็ได้ ที่สำคัญดูแลรักษาง่าย และไม่เก็บฝุ่น “ส่วนชั้นบนเป็นส่วนของเรือนไทย แบ่งออกเป็นห้อง 2 ห้อง มีส่วนของชานระเบียงซึ่งอยู่ภายในตัวบ้าน แต่ดูไม่อัดอัด เพราะมีหน้าต่างเปิดรับแสง และรับลม เป็นหน้าต่างบานไม้เปิดคู่พร้อมกับติดกรงเหล็กแบบเดิมๆ ชั้นบนนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก เพราะความเป็นไม้แท้มันสวยงามในตัวของมันเองอยู่แล้ว รวมถึงพื้นไม้ และฝาผนังไม้ก็ค่อนข้างสวยและสมบูรณ์ ที่ทำเพิ่มมีเพียงซ่อมแซม ทำสี และเคลือบให้ไม้ดูใหม่ขึ้น ปิดช่องโหว่บนพื้น และผนังที่ไม่สนิท พร้อมกับปิดแผ่นใสอะคริลิกที่ช่องหน้าต่างเพื่อป้องกันยุง รวมถึงติดตั้งเครื่องปรับอากาศไว้ภายในห้องนอนทั้ง 2 ห้องด้วย”

กล่องความทรงจำ
ในส่วนของการแบ่งโซนภายในบ้าน คุณไพโรจน์ คิดออกแบบเอง โดยเน้นที่ความเรียบง่าย “น้อยแต่มาก” น้อยในที่นี้คือตกแต่งแบบเรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตได้มาก และคุ้มค่า เพราะคุณไพโรจน์เองไม่ได้อยู่อาศัย หรือนอนในบ้านหลังนี้เป็นหลัก ฟังก์ชั่นการใช้งานจึงเน้นรองรับการมาพักผ่อนหย่อนใจ รองรับเพื่อนฝูงที่แวะเวียนมาบ่อยครั้ง ไปจนถึงประชุมงาน สังสรรค์หลังเลิกงาน หรือรับรองคู่ค้าคนสำคัญจากต่างประเทศ ซึ่งบ่อยครั้งที่คุณไพโรจน์มักจะแวะมาเพื่อพักหายใจ ให้รู้สึกผ่อนคลาย หลังจากทำงานมาตลอดทั้งวัน ก่อนกลับบ้าน เพราะที่นี่เงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวน ได้ยินก็เพียงเสียงนกร้อง เสียงจิ้งหรีดเรไร เหมือนกำลังถูกธรรมชาติบำบัด “แค่ได้แวะมาบ้านหลังนี้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนกลับบ้าน ผมก็รู้สึกมีความสุข เหมือนได้ชาร์จพลังไปในตัวแล้ว อยู่ที่นี่เหมือนได้ปลีกตัวจากความวุ่นวาย กลับสู่ความเรียบง่ายของชีวิต ไม่ใช่แค่ผม และครอบครัวที่แวะมาบ่อยๆ ครอบครัวที่ทำงานก็ได้มีโอกาสพามาบ่อย บางครั้งก็มาประชุม คุยงานกันแบบสบายๆ บางครั้งมาทานข้าวเย็นด้วยกัน ทำปิ้งย่างทานกันง่ายๆ

 

“การออกแบบห้องชั้นล่าง จึงแบ่งโซนพื้นที่ให้เป็นห้องครัวไทยที่ต่อเติมเพิ่ม กั้นจากห้องรับแขก และห้องทานอาหารด้วยเคาน์เตอร์ปูนอิฐมอญ แต่เชื่อมต่อกันได้ง่ายด้วยการติดบานเฟี้ยมกระจกกรอบไม้ สะดวกในการเปิด และปิด ห้องครัวนี้จะเป็นแนว Italian Look ดูมีลวดลายให้ได้ตื่นเต้น ส่วนห้องรับแขก และห้องทานอาหาร จะเป็นส่วนเดียวกันบนพื้นที่โล่ง เน้นสีขาวสบายตา สลับกับความอบอุ่นของไม้ กลมกลืนความเป็นธรรมชาติ

“ซึ่งห้องนี้ผมจัดโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ ไว้ 2 ชุด ชุดละ 7-8 ที่นั่ง พร้อมกับวางโซฟาเบดตัวใหญ่ไว้ใกล้กัน และชุดเก้าอี้รับแขกหวายสานแบบเก่า อีก 1 ชุด ส่วนชั้นบน 2 ห้อง ผมทำเป็นห้องนอน มีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวชิ้นใหญ่เพียงไม่กี่ชิ้น หนึ่งในนั้นคือเตียงหวาย และโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งเป็นของเก่าเก็บตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ พอท่านเสียผมเลยนำมาไว้ที่บ้านหลังนี้ เพราะนอกจากความเข้ากันของไม้ยุคก่อนแล้ว สิ่งสำคัญก็คือร่องรอยของความทรงจำที่ประเมินค่าไม่ได้ที่หลงเหลืออยู่ไม่ใช่แค่นั้นข้าวของคุณพ่อคุณแม่ ยังมีเฟอร์นิเจอร์อีกหลายชิ้น ของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ผมผูกพันมาตั้งแต่เด็กๆ จากเพียงไม่กี่ชิ้นที่ผมตั้งใจเก็บไว้ให้คิดถึง กลายเป็นของสะสม ที่ค่อยๆเติบโตขึ้นทีละเล็กละน้อย ทั้งของเก่า และของใหม่ บ้านเรือนไทยหลังนี้เลยเต็มไปด้วยชิ้นส่วนของงานไม้ ภาพศิลปะ และประตูสู่ความทรงจำที่ทำให้ผมมีความสุข และยิ้มได้ทุกครั้ง” คุณไพโรจน์ พาเดินชมส่วนต่างๆของบ้านพลางเล่าที่มาของร่องรอยความทรงจำ

Make life simple
เพราะสิ่งที่เราไม่ต้องวิ่งค้นหา หรือไขว่คว้าเพื่อให้ได้มาอย่างยากลำบาก เป็นความสุขที่พอเพียงในอีกรูปแบบหนึ่งที่เราเลือกที่จะทำ หากจะให้นิยามก็คงจะหมายถึง “การทำชีวิตให้ง่าย” อาจไม่ได้หมายถึงทุกจังหวะเวลาของชีวิต เพราะบางครั้งชีวิตคนเราก็ไม่มีอะไรที่ได้สมดังใจเสมอไป ดังนั้น เพียงแค่ด้านใดด้านหนึ่ง หรือมุมใดมุมหนึ่งของชีวิต พอมีเวลา และพื้นที่ให้เราได้ ทิ้งตัว ปลดปล่อย ปลีกตัวจากความวุ่นวาย หลีกหนีความยุ่งยากซับซ้อน เสพธรรมชาติ เสพงานศิลปะ ปาร์ตี้กับเพื่อน ทำอาหารทานเองกับครอบครัว หรือท้ายที่สุด จะแค่นั่งว่างๆ นั่งเล่น นอนเล่น ปล่อยวางความคิด ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่เราเลือกที่จะทำได้ มันจะกลายเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว หากสุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้มันคือ “ความสุข”

 

More Detail
ปัญหาใหญ่ของบ้านไม้ คือ “ปลวก” หัวใจสำคัญในการป้องกันปลวกกัดแทะเนื้อไม้ นอกจากการเลือกใช้ไม้สร้างบ้าน หรือไม้เฟอร์นิเจอร์ ที่เป็นไม้เนื้อแข็งแล้ว ต้องพยายามไม่ให้บ้านเกิดความชื้น โดยเฉพาะในฤดูฝน ควรหมั่นตรวจเช็กพื้นที่ไม้รอบๆบ้าน

 

 

Story                                       : อาทิติญาพร เงาศรี

Photography                           : รัก  ปลัดสิงห์

Host                                        : คุณไพโรจน์ ชื่นครุฑ

Facebook Comments
By Oom, 25/05/2018
Leave a Reply
Change language:
Instagram API currently not available.
Instagram API currently not available.