Back to home
Artist, SPOTLIGHT

Idealistic Universe จักรวาลในหนึ่งห้วงความรู้สึก

จรดปลายพู่กันแตะสีฝุ่นลงบนเฟรมผ้าใบ…อาศัยช่วงจังหวะของความรู้สึกเป็นสื่อนำ “จุด” ที่เรียงร้อยต่อกันเป็นเส้น และรูปทรงบน ‘เฟรมผ้าใบ’ ที่เปิดปลายความคิด กระตุกห้วงเวลาให้หยุดเดิน กระตุ้นความคิดให้เดินทางเข้าไปในจิตใจ เพื่อสื่อสารความหมายกับจักรวาลภายในของตน

‘จุด พื้นที่ว่าง สีขาว และสีดำ’ ทัศนธาตุพื้นฐานที่บอกเล่าเรื่องราวของความคิด และความรู้สึกที่ซับซ้อน จุดที่เรียงต่อกันเป็นเส้น คือวิถีของความคิดของผู้คนที่ไม่มีวันหยุด “เพราะสิ่งที่ยากที่สุดของมนุษย์ก็คือการหยุดคิด” นี่คือสิ่งที่เรียนรู้ได้จากผลงานที่เหมือนกับจักรวาลเหล่านี้ของ “สิทธิพนธ์ เลาะไชยสงค์ หรือบอมบ์” ด้วยการเลือกใช้สีฝุ่นขาว กรุลายแบบภาพพิมพ์ (Stencil) บนเฟรมผ้าใบสีดำ และสื่อสารกับความรู้สึก ณ ขณะของการสร้างสรรค์ผลงาน จนเกิดเป็นผลงานเฉพาะตัวของตนเอง หากจะพูดถึงคอนเซ็ปต์ของงานคงต้องพูดถึงเรื่อง “การสะท้อนสาระของความรู้สึก” คุณบอมบ์ขยายความต่อว่า “ผมเป็นคนที่สงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับความสุขคืออะไร ชีวิตต้องการอะไร และชีวิตต้องการแค่ความสุข ซึ่งเราสามารถทำจิตของเราให้มีความสุขขึ้นมาเองโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยภายนอก คือจัดการกับใจเราก่อนอย่างอื่นเราก็จะมีความสุขกับชีวิตขึ้นเยอะ”

จุดเริ่มต้นของความสงสัยใคร่รู้ในชีวิต และสภาวะของจิตใจของบอมบ์เริ่มต้นจากการเรียนจิตรกรรมไทยที่พูดถึงเรื่องของสวรรค์ และนรกที่ถูกกล่าวถึงในไตรภูมิพระร่วง ซึ่งหากเปรียบเทียบกับความรู้สึก “สวรรค์ก็อาจจะเป็นความรู้สึกที่ Happy มีความสุข นรกก็อาจจะรู้สึกร้อนรน กังวลใจ จากที่ต้องวาดรูปทรงเทวดา นางฟ้า รูปทรงปราสาท วิมาน ผมก็เลยลดทอนรูปร่างลงไปไม่แทนค่าด้วย Symbolic แต่จะแทนค่าด้วยการจับจังหวะ ถ้าสังเกตงานผมจะเห็นจังหวะบีบแน่น จังหวะผ่อน จังหวะเบา จังหวะบาง พวกนี้มันคือจังหวะ เป็นจังหวะของอารมณ์ ซึ่งก็คือจังหวะของสวรรค์ นรก ที่อยู่ในใจเรานี่แหละ” คุณบอมบ์อธิบายเพิ่มเติมถึงงานของตนเอง

จากเรื่องของสวรรค์ นรกนี้ได้นำทางให้คุณบอมบ์สร้างสรรค์ผลงานชื่อ Idealistic Universe” ขึ้น ซึ่งพูดถึงจักรวาล 2 ส่วน คือ จักรวาลภายนอก และจักรวาลภายใน ซึ่งเป็นการพ่วงสองสิ่งรวมกัน จากการมองเห็นผู้คนที่ออกไปเรียนรู้สิ่งต่างๆ ภายนอกตัวมากมาย แต่ไม่เคยย้อนกลับมาเรียนรู้กับตัวเองเลย จนคุณบอมบ์เกิดความคิดว่าเราควรจะกลับมาควบคุม หรือเรียนรู้จักรวาลภายในของเรา หรือว่าจักรวาลในอุดมคติของเรา ว่าแท้จริงเราจัดการอะไรได้บ้าง ซึ่งคุณบอมบ์ได้คำตอบให้กับเขาเองว่าจะต้องใช้ชีวิตให้อยู่ใน ‘ความบาลานซ์’ ของตัวเอง “คำตอบนี้เราไม่สามารถบอกคนดูได้ว่าบาลานซ์คืออะไร แต่คนดูต้องบอกตัวเอง เพราะความพอดีของแต่ละคนไม่เท่ากัน แล้วแต่ละคนก็จะมีความพอดีของแต่ละจังหวะ แต่ละเวลาไม่เท่ากัน พอดีของเราตอนนี้กับพอดีของเราในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือ 3 ปีย้อนหลังก็ไม่ใช่พอดีอันเดียวกัน” คุณบอมบ์อธิบายถึงความพอดีในความรู้สึกของผู้คนได้อย่างเป็นสัจธรรม

สำหรับศิลปะในความรู้สึกของคุณบอมบ์คือ “การนำความงาม และความไม่งามมาผสมกันอย่างลงตัวที่เรียกว่าสุนทรียะ เหมือนผู้หญิงที่สวย กับผู้หญิงที่มีเสน่ห์ คนมีเสน่ห์อาจจะไม่ได้สวย แต่เค้ามีเสน่ห์คือมีความงามกับความไม่งามที่ผสมมาอย่างลงตัว บางทีตรงนี้ตาอาจจะไม่สวย แต่จมูกสวย แต่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์ นี่แหละคือคำตอบของผม เพราะงานของผมจะมีจุดบางจุดละเอียด และบางจุดอาจจะหยาบ แต่พอมารวมกันจุดหยาบมันผลักให้จุดละเอียดเด่น และจุดละเอียดก็ผลักให้จุดหยาบเด่นไปด้วยกันอย่างสมดุล” คำพูดทิ้งท้ายของคุณบอมบ์ทำให้เข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าเหตุใดจึงเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง และไม่สงสัยเลยว่าเหตุใดศิลปินหนุ่มคนนี้จึงได้ไปจัดนิทรรศการเดี่ยวไกลถึงมิลาน, อิตาลี ซึ่งเป็นดังคำกล่าวที่ว่า “ศิลปะไม่อาจเข้าใจได้ แต่ต้องสัมผัสด้วยความรู้สึก”

 

Story อัญชิสา พ่วงทรัพย์

Photographer กานติพัทธ์ ช่างเรือ

Artist สิทธิพนธ์ เลาะไชยสงค์


 

Facebook Comments
By Oom, 03/05/2018
Leave a Reply
Change language:
Instagram API currently not available.
Instagram API currently not available.