ท่ามกลางการหลั่งไหลของคลื่นแห่งยุคสมัยที่ผลัดเปลี่ยนให้ใจกลางกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยความศิวิไลซ์ แต่สิ่งหนึ่งที่หยัดยืนนำเสนอความงดงาม ต้อนรับให้ทุกผู้มาเยือนเสมือนได้สัมผัสวิถีแห่งไทยในเมืองใหญ่มา กว่าครึ่งทศวรรต คือ โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งกำลังจะถูกคลื่นลูกใหม่เหล่านั้นพัดพาให้ผ่านพ้นจนเหลือไว้เพียงตำนาน
ดุสิตธานี เป็นโรงแรม 22 ชั้น บนพื้นที่ 19 ไร่ ตั้งอยู่บนหัวถนนสีลม ที่มีเรื่องราวยาวนานคู่คนไทยตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันกว่า 48 ปี ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2513 จากความฝันที่อยากมีโรงแรมตึกสูงของ ท่านหญิง ชนัตถ์ ปิยะอุต โดยมีบริษัท คานโกะคิคากุ เซเกอิชา เป็นผู้ออกแบบตัวอาคาร และบริษัทโอบายาชิกูมิ เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง เหตุที่ต้องใช้บริษัทญี่ปุ่นเข้ามารับหน้าที่เป็นเพราะประเทศไทยในขณะนั้นยังไม่เคยมีการสร้างตึกสูงมาก่อน
นามที่ใช้เรียกขานมีที่มาสองนัยจาก หนึ่ง คือความต้องการให้เชื่อมโยงกับชื่อเมืองในสวรรค์ ซึ่ง ดุสิต เป็นชื่อสวรรค์ชั้นที่ 4 จากทั้ง 6 ชั้น และ สอง ที่ตั้งของโรงแรมอยู่ตรงข้ามกับพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งมีพระราชประสงค์ที่จะสร้างเมืองแม่แบบประชาธิปไตยขึ้น ซึ่งก็คือ ดุสิตธานี นั่นเอง
ส่งผ่านแนวคิดที่ตั้งใจนำเสนอความเป็นไทย หรือ Thai Hospitalities ผ่านรูปทรงอาคารเชิงสัญลักษณ์ ยอดตึกดีไซน์เป็นยอดปลีเหมือนกับยอดเจดีย์ และคอนเซ็ปต์หลักของโรงแรมคือการผสมผสานเสน่ห์ความเป็นไทยเข้ากับความทันสมัยในแบบตะวันตกอย่างลงตัว การตกแต่งจึงกอปกรไปด้วย ภาพวาดลวดลายไทย ผ้าไหม และงานไม้สัก ที่สอดรับเข้ากับสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ที่มีให้แก่ทุกผู้มาเข้าพักเพื่อประสบการณ์ในการพักผ่อนที่เหนือชั้นกว่าใคร
เริ่มต้อนรับเราเข้าสู่กลิ่นอายไทยแท้กันที่ล็อบบี้ซึ่งอยู่ในส่วนโพเดียม หรืออาคารทรงเตี้ย ที่เป็นส่วนต้อนรับ เผยความเป็นไทยที่รายรอบในบรรยากาศด้วยลวดลายและเส้นสายในการตกแต่ง เล่นแสงธรรมชาติจากช่องหน้าต่าง ออกแบบเพดานด้วยรูปทรงแปลกตาจนเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์กับก้นกลีบดอกบัว ให้รู้สึกเสมือนกลีบดอกลอยอยู่เหนือน้ำยามแหงนหน้าขึ้นมอง เชื่อมต่อจากล็อบบี้ลงไปยังศูนย์รวมร้านค้าและบริการ ไปจนถึงส่วนเทอเรซที่ร่มรื่นน่ามองไปด้วยพืชพรรณไม้ สายน้ำตก และบ่อปลาคาร์ป ที่อยู่ด้านนอกของห้องอาหารเบญจรงค์ ห้องอาหารที่เสิร์ฟรสชาติแบบไทยแท้ในภาพลักษณ์คอมเทมโพรารี่ให้แก่ลูกค้านานับประเทศมายาวนาน
สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอีกระดับในบรรยากาศความเป็นไทย ซึมซับเสน่ห์สถาปัตยกรรมเก่าในทุกหวงขณะ กับห้องพักทั้งหมด 517 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักแบบธรรมดา ห้องดุสิตคลับ ห้องสวีท รวมถึงห้องมาเจสตี้สวีท มีห้องที่คงความเป็นไทยอย่าง ไทย เฮอริเทจ สวีท ที่มีด้วยกัน 4 ไทป์ คือ สุโขทัย , อยุธยา , ล้านนา และ ลพบุรี ภายในมีการตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศผสมผสานกลิ่นอายในแต่ละยุคสมัยไว้เต็มเปี่ยม ทั้งจากภาพวาดงานเขียน ภาพถ่าย เครื่องชามสังคโลก ฯลฯ
ซึ่งเรื่องราวของการสะท้อนความเป็นไทยทรงคุณค่าของโรงแรมดุสิตธานี กำลังจะเดินทางมาถึงบทสรุปที่จะถูกจดจำไว้เป็นประวัติศาสตร์ยุคหนึ่งที่เกิดขึ้น เพื่อเตรียมผันเปลี่ยนสู่บริบทใหม่ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์แห่งยุคสมัยมากขึ้น โดยวันสุดท้ายที่ตึกทรงสูงของโรงแรมคุ้นตายามผ่านไปมาย่านสีลมนี้จะเปิดให้บริการก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นแหล่งอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบผสม คือวันที่ 5 มกราคม 2562 ก่อนจะถูกปรับเปลี่ยนจนเหลือไว้เพียงตำนานให้ได้เล่าถึงกันต่อไป
Story ธรรมสุดา สื่อธรรม
Photography อรรถพงศ์ สมวงค์
Place โรงแรม ดุสิตธานี กรุงเทพฯ 946 ถนนพระราม 4 กรุงเทพมหานคร 10500, ประเทศไทย โทร 02 2200 9000
