ผนัง เปรียบเสมือนกับเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่เราสามารถเลือกสวมใส่ได้หลากหลายรูปแบบ และสามารถเลือกเปลี่ยนได้ตามสไตล์อย่างไร้ขีดจำกัด
ผนัง (wall) โครงสร้างลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่ก่อขึ้นในแนวตั้งมีลักษณะทึบ ตัน โดยทั่วไปคือผนังของอาคาร บ้านเรือน ใช้สำหรับรองรับน้ำหนักด้านบน และใช้แบ่งพื้นที่ภายในอาคารให้เป็นสัดส่วนเพื่อกำหนดขอบเขตของพื้นที่ และใช้ป้องกันสภาวะบรรยากาศภายนอกโดยผนังแบ่งออกเป็น ผนังภายนอกซึ่งคอยปกป้องตัวบ้านจากสภาพอากาศต่างๆ ทั้งแสงแดด ความร้อน กระแสลม สายฝน ฝุ่นละอองเป็นเสมือนเกาะกำบังที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยส่วน ผนังภายในทำหน้าที่แบ่งพื้นที่ใช้สอยต่างๆ เพื่อกันระหว่างห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องอื่นๆ ล้วนเต็มไปด้วยความหลายหลากของการออกแบบให้เราสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ
ผิวผนัง (Texture) ผนังที่แตกต่างกัน สามารถส่งผลกับอิทธิพลทางการรับรู้ในมิติต่างๆ ทั้งลวดลาย มวล ปริมาตร ด้านการสัมผัส และทางด้านสายตาแม้กระทั่งความรู้สึก พื้นผิวหยาบจะให้ความรู้สึกกระตุ้นประสาทถึงความ หนักแน่น มั่นคง แข็งแรงถาวร ในขณะที่ผิวเรียบ จะให้ความรู้สึกเบา สบาย เพราะลวดลายที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้นั้นๆ แยกออกเป็น พื้นผิวที่สัมผัสได้ด้วยมือ หรือกายสัมผัส คือพื้นผิวที่เป็นอยู่จริง จากงานประติมากรรม งานสถาปัตยกรรม และสิ่งประดิษฐ์อื่น ๆ และ พื้นผิวที่สัมผัสได้ด้วยสายตา ลักษณะที่ไม่แท้จริงของผิววัสดุนั้น ๆ เช่น การวาดภาพท้องฟ้าบนกระดาษ จะให้ความรู้สึกเป็นท้องฟ้า แต่มือสัมผัสเป็นกระดาษ หรือใช้กระดาษพิมพ์ลายน้ำ ลายหินอ่อน ลายน้ำ เพื่อปะทับบนผิวหน้าของสิ่งต่าง ๆ เป็นการสร้างพื้นผิวลวงตาให้สัมผัสได้ด้วยการมองเห็นเท่านั้น
ผนังถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกาะป้องกันให้ตัวอาคารมีความสมบูรณ์ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัย ทั้งการแบ่งฟังก์ชั่นภายในอาคารให้เป็นสัดส่วน และการดีไซน์อย่างไม่หยุดยั้งของนักออกแบบ เพื่อให้ได้พื้นผิวที่แตกต่างทางการรับรู้ และการน้ำมาใช้งาน
Story กานต์ ทองปอน
Photographer อรรถพงศ์ สมวงค์