เรือนกระจกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบชายหาดมุ่งสู่เขาตะเกียบ สถานที่ที่ร้อยเรียง เรื่องราวระหว่างหัวหิน และอากาศ ได้อย่างลงตัว ด้วยเรื่องราวของหัวหินที่น้อยคนนักจะรู้ของผู้ก่อตั้งที่เกี่ยวพันกับสองพี่น้องตระกูลไรท์ นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้การเดินทางง่ายดายมากยิ่งขึ้นในโลกสมัยใหม่อย่างมีนัยสำคัญที่สร้างนิยามฉบับใหม่ ให้ Air Space เป็นมากกว่าพื้นที่ว่างระหว่างห้วงอากาศ
เรือนกระจกขนาดใหญ่ที่มีต้นแบบมาจาก Barn ของสองพี่น้องตระกูลไรท์ที่ใช้ประดิษฐ์พาหนะของโลกยุคใหม่อย่างเครื่องบิน หลายท่านอาจจะสงสัยว่าเครื่องบินกับหัวหินเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร คุณแอร์ – กรศิริ ศุภกฤตกุล เจ้าของร้าน Air Space แห่งนี้เล่าให้ฟังว่า “ตอนที่คิดทำร้านอยากจะให้ร้านมีธีม แต่ว่าอยากจะได้เป็นธีมเกี่ยวกับหัวหิน พอคิดถึงหัวหินเราก็จะคิดถึงสถานีรถไฟหัวหิน ตลาดคนเดินซึ่งผู้ที่พัฒนา ก็คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน พระโอรสองค์ที่ 35 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้พัฒนาเมืองหัวหินให้มีพร้อมทั้งการรถไฟ และสนามบินบ่อฝ้ายที่ใช้ฝึกนักบินพาณิชย์ รวมทั้งเป็นผู้วางระบบการบินของประเทศไทย นอกจากนี้พระองค์ยังเป็นคนไทยคนแรกที่ได้นั่งเครื่องบินของสองพี่น้องตระกูลไรท์อีกด้วยก็เลยเป็นที่มาของธีมร้านที่สอดคล้องกับชื่อ Air ของเราด้วย”คุณแอร์เล่าถึงที่มาของร้าน Air Space แห่งนี้
บนพื้นที่ 550 ตารางเมตร ที่นอกจากเรือนกระจกขนาดใหญ่แล้ว ร้าน Air Space ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวที่มีกว่า 30% จากรั้วต้นไม้ที่ช่วยลดแสงสะท้อนจากเรือนกระจกไปยังพื้นที่รอบข้าง ที่นอกจากจะช่วยเติมสีเขียวให้กับพื้นที่โดยรอบแล้ว ยังมีการปลูกพืช อาทิ ชะพลู สะระแหน่ เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบภายในร้านอีกด้วย สำหรับพื้นที่ของทางร้านแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนร้านอาหาร และ Café โดยมีต้นมั่งมีขนาดใหญ่เป็น Landmark สำคัญในการแบ่งร้านทั้งสองฝั่งให้แยกออกจากกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีป้ายบอกให้ขวางสายตา
การตกแต่งร้านทั้งสองฝั่งมีความแตกต่างกันด้วย Mood & Tone โดยโซนร้านอาหารเน้นโทนสีเข้มของไม้สัก พร้อมทั้งตกแต่งด้วยของสะสมของทางบ้านของคุณแอร์ อันหวนให้นึกถึงร่องรอยแห่งอดีตในวันวาน ซึ่งเป็นที่ถูกใจของลูกค้าทุกวัยที่แวะมาเยี่ยมเยือน นอกจากนี้พื้นที่ outdoor ของโซนร้านอาหารมีการตกแต่งด้วยสีแดงสด จากคอนเซ็ปต์ที่ว่า “ถ้าเป็นอาหารไทยก็ต้องมีรสเผ็ดนิดหนึ่ง สีแดงที่ใช้ก็เป็นเหมือนพริกในสวน เพื่อสื่อถืออาหารไทย และด้วยการตกแต่งภายในที่เป็นเฉดเดียวกันหมด จึงอยากให้ข้างนอกมีความเด่นขึ้นมา”
ในส่วนของโซนคาเฟ่เมื่อเดินเข้าสู่ภายในร้านจะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น สบาย แบบเป็นกันเอง ด้วยการเลือกใช้โทนสีที่สว่าง กอปรกับการตกแต่งทุกมุมของร้านด้วยดอกไม้แห้งสีสันสดใส การสร้างโครงเหล็กที่คล้ายกับโครงสร้างของเรือนกระจกในส่วนของบาร์ชงเครื่องดื่ม กระทั่งสั่งทำโต๊ะที่มีหน้าแคบ และมีขนาดไม่สูงมาก เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นกันเองให้กับลูกค้าในทันทีที่เดินเข้ามา พร้อมทั้งประดับด้วยของตกแต่งที่สะสมมาจากการเดินทางของคุณแอร์ และแผนที่โลกในปี 1903 ที่ทำมาจากหนังวัว 8 ผืน ยึดโยงกันไว้ด้วยจุดเด่นของหัวหินในทุกมุมของผืนหนัง พร้อมลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ บนแผนที่โลกแผ่นนี้ “ทุกอย่างที่เอามาวาง เป็นของที่เราเดินทางแล้วก็ซื้อมา แล้วก็จะมีของจากที่บ้านที่ย้ายมา เราอยากให้รู้สึกว่าเข้ามาแล้วมันมีเรื่องราว ตัวเราเองเดินเข้ามาแล้วก็อิน เพราะเรามีเรื่องราวกับทุกอย่างที่เราเอามาจัดวางในร้าน”
ไม่เพียงแค่การตกแต่งที่แบ่งพื้นที่ออกจากกันอย่างชัดเจนเท่านั้น อย่างที่กล่าวถึงในตอนต้นว่าร้าน Air Space เป็นสถานที่ที่เชื่อมโยงหัวหิน และอากาศให้ร้อยเรียงกัน การตกแต่งที่เป็นไฮไลต์ของร้านจึงต้องสละเวลาเงยหน้ามองไปยังจั่วหลังคาที่สูงถึง 12 เมตรสักครู่ แล้วจะพบโมเดลเครื่องบินที่จำลองมาจากเครื่องบินลำแรกของสองพี่น้องตระกูลไรท์ ในขนาด 95% ของอัตราส่วนจริงที่โชว์อยู่ในพื้นที่ว่างเหนือศีรษะของโซนร้านอาหาร และยังมีฝาปิดห้องเครื่องของเฮลิคอปเตอร์ 3 ชิ้นที่นำมาเชื่อมเป็นแชนเดอร์เลียในโซนคาเฟ่ รวมถึงมีการสลักค่าละติจูด และลองจิจูดของร้านทั้ง 2 พื้นที่ไว้บนพื้นอีกด้วย
สำหรับ Air Space ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยความเอาใจใส่การทุกรายละเอียดของการตกแต่งตั้งแต่พื้นจรดจั่วหลังคา ตั้งแต่หน้าร้านไปจนกระทั่งลานจอดรถ แม้กระทั่งการวางท่อแอร์ภายในร้านที่เหมือนกับท่อแอร์ในสนามบิน หรือบนเครื่องบินในอดีต ที่จัดวางได้อย่างลงตัว และช่วยให้อากาศภายในเรือนกระจกแห่งนี้ไม่ร้อนอย่างที่คาดคิดไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะกระจกที่ช่วยกรองแสงในระดับหนึ่ง โดยเคลือบกระจกหลายชั้นเพื่อป้องกันอันตรายหากเกิดอุบัติเหตุด้วย หรือแม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ อย่างการใช้เหล็ก H Beam สีดำ ที่ปล่อยให้สนิมกัดกร่อน แล้วเคลือบ เพื่อรักษาร่องรอยของสนิมให้คงอยู่ และไม่
เพิ่มขึ้นไปจากเดิม
“Air Space คือ รสชาติกาแฟที่ดี อาหารไทย แล้วก็การดีไซน์แบบดิบๆที่เป็นดีเทลในแบบของเราเหมือนเป็น 3 อย่างมารวมกัน ถ้าจะถามว่าที่ร้านตกแต่งเป็นสไตล์อะไรก็คงเป็นอินดัสเทรียล พังค์ คือเป็นอินดัสเทรียลที่ไม่มีอะไรตายตัว เป็นอินดัสเทรียลในแบบของเราเอง…ประโยคนี้เคยมีคนเดนมาร์กพูดเอาไว้ตอนมาสัมภาษณ์” คุณแอร์ทิ้งท้ายด้วยคำนิยามของร้านแห่งนี้
รายละเอียดในการตกแต่งของร้าน Air Space ยังมีอีกมากมายที่รอให้คุณผู้อ่านได้เดินทางไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ร้อยเรียงไว้ตั้งแต่พื้นจรดจั่วหลังคา และในทุกๆพื้นที่ว่างระหว่างอากาศทั้งภายใน และภายนอกของร้าน การเดินทางไปที่ร้านก็ไม่ยากเพียงขับรถไปบนถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าสู่เขาตะเกียบ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร้าน Air Space จะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงซอยท่าเรือเฟอรี่หัวหิน-พัทยา เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา09.00 – 21.00 น. (โซน Cafe) และ 11.00 – 23.00 น. (โซนร้านอาหาร) L&H
Story อัญชิสา พ่วงทรัพย์
Photographer อรรถพงศ์ สมวงค์
Place Air Space Hua-Hin โทร. 063-916-0999