หนึ่งในปัญหาที่เจ้าของบ้านคิดว่าเล็ก ทั้งที่จริงเป็นเรื่องใหญ่มีผลเสียตามมาอีกมากมายก็คือ ปัญหาที่เกิดจาก บานประตู – หน้าต่าง หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของบ้าน ที่เป็นทั้งช่องทางหมุนเวียนอากาศภายนอกสู่ภายในบ้าน ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง เย็นสบาย และยังเป็นช่องทางของแสงสว่างเข้าภายในบ้าน รวมถึงเพิ่มโอกาสให้เจ้าของบ้านใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ถ้าประตู-หน้าต่าง “ชำรุด” หรืออยู่ในสภาพ “ไม่พร้อมใช้งาน” อันเนื่องมาจาก วัสดุที่เลือกใช้ไม่ได้มาตรฐานหรือฝีมือช่างไม่มีความประณีตเพียงพอในขั้นตอนการก่อสร้าง อาจก่อให้เกิดความชื้นซึมเข้ามาในบ้าน จากช่องว่างของบานประตูหน้าต่างที่ชำรุด ซึ่งนอกจากส่งผลให้ต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้น ด้วยเหตุที่ว่าแอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขับไล่ความชื้นแล้ว ยังทำให้บ้านกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่เกิดจากเชื้อรา อย่างโรคภูมิแพ้ หอบหืด และปอดอักเสบอีกด้วย
เพจ Life and Home จึงอยากชวนทุกท่านมาป้องกันความเสียหายก่อนที่มันเกิดด้วยการเช็คสภาพและการใช้งานประตู-หน้าต่างที่บ้านด้วยตัวเองแบบง่ายๆ 7 ข้อดังต่อไปนี้ โดยการเช็คสุขภาพของประตูหน้าต่างเราจะต้องเช็คทั้งการใช้งาน และ เช็คสภาพประตูหน้าต่าง ควบคู่กันไป
7 เช็คลิส สุขภาพประตูหน้าต่าง ถึงเวลาเปลี่ยนหรือยัง
1. เวลาปิดประตู-หน้าต่าง เกิดช่องว่างระหว่างบาน ไม่สามารถปิดสนิทได้ หรือบานมีการเสียดสีจนส่งเสียงดัง หรือขยับโยกได้ระหว่างการใช้งานหรือไม่
2. ถ้าหากประตูหน้าต่างเป็นแบบบานเลื่อน เวลาเลื่อนต้องเลื่อนได้ปกติไม่รู้สึกฝืด
3. กรอบบานหรือวงกบ มีรอยผุเปื่อย รอยแยกตรงรอยต่อ ที่เสื่องต่อการซึมหรือรั่วจากน้ำฝนที่อาจจะเข้ามาภายในบ้านหรือไม่
4.ในขณะที่เปิด – ปิด มีการติดขัดอย่างรุนแรง หรือไม่
5. บริเวณประตู-หน้าต่างมีการรั่วซึมของน้ำจากภายนอกเข้ามาได้หรือไม่
6. บ้านไม่สามารถป้องกันเสียง กลิ่นจากภายนอกได้ดีอย่างที่เคย
7. อุปกรณ์สึกหรอหรือไม่ เช่น มือจับ, บานพับ, ลูกล้อ การใช้งาน และ อุปกรณ์ของบานยังแน่นสนิทดีหรือไม่
ถ้าหากประตูหน้าต่างที่บ้านใครเกิดปัญหาแบบนี้ละก็ แสดงว่าประตูหน้าต่างของบ้านเรามีปัญหาและถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนหรือแก้ไขแล้ว และเพื่อจบปัญหาตามที่กล่าวมาข้างต้นทาง WINDSOR ผู้นำด้านนวัตกรรมประตู-หน้าต่าง จึงคิดค้นเทคโนโลยีประตู-หน้าต่าง รุ่น SMART Series ที่มาพร้อม 3 นวัตกรรมที่สร้างมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ตั้งแต่ต้นเหตุ
ทั้งนี้คุณสามารถวางใจได้ ด้วยบริการของ WINDSOR บริการการติดตั้งประตูหน้าต่างอย่างครบวงจร ที่มีบริการตั้งแต่ให้คำปรึกษา บริการวัดหน้างาน บริการเขียนแบบ ประเมินราคา จนไปถึงขั้นตอนการติดตั้ง โดยการติดตั้งของ WINDSOR ก็มีการทำงานเป็นขั้นตอน และทีมติดตั้งก็แบ่งหน้าที่การทำงานกันอย่างชัดเจน โดยทีมเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้นำประตู-หน้าต่างมาส่งก่อน พร้อมจัดวางในพื้นที่ๆเหมาะสม จากนั้นทีมช่างจะเข้ามาที่หน้างาน โดยเริ่มจากเคลียร์พื้นที่ให้พร้อมสำหรับการติดตั้งติดตั้ง และเริ่มติดตั้งสินค้า ส่วนบานที่ต้องการรีโนเวทหรือเปลี่ยนใหม่ จะเริ่มด้วยการถอดกรอบบานประตูหน้าต่างเก่าออกพร้อมทั้งทำความสะอาดพื้นที่หน้างาน (ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเก็บบานเก่าเอาไว้ หรือให้ทีมช่างของ WINDSOR นำกลับไปก็ได้) ต่อมาช่างจะติดตั้งกรอบบานใหม่ ถ้ามีมุ้งลวดก็จะถูกติดตั้งในขั้นตอนถัดไป หลังจากนั้นก็จะทำความสะอาดพื้นที่ทำงานอย่างเรียบร้อย จนมาสู่ขั้นตอนสุดท้ายคือการส่งมอบงานและอธิบายขั้นตอนการใช้งาน และวิธีการดูแลรักษาให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งเช็คความเรียบร้อยของประตู หน้าต่างว่าทุกบานทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งบริการของ WINDSOR นี้เหมาะอย่างมากกับบ้านเก่าที่ต้องการเปลี่ยน ประตู-หน้าต่างใหม่ เพราะการทำงานและการติดตั้งนั้นรบกวนการอยู่อาศัยของคนในบ้านน้อยมาก และที่สำคัญคือปลอดภัยและไว้ใจได้ แต่สำหรับบ้านใหม่ที่ยังไม่เคยติดตั้งประตูหน้าต่างก็สามารถใช้บริการนี้ได้เช่นกัน
โดยทั้งหมดเป็นบริการจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ทำงานอย่างเป็นระบบ จึงมั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอน อยู่ภายใต้มาตรฐานที่ปลอดภัย และมีคุณภาพ ในราคาที่เป็นมิตร จับต้องได้ และที่สำคัญมีการดูแลหลังการขายที่ไม่ทอดทิ้งลูกค้า ด้วย Long Term Warranty ที่รับประกันวงกบและกรอบบาน เป็นเวลา10 ปี และรับประกันในส่วนของฮาร์ดแวร์ และการติดตั้ง 1 ปี คุณจึงเบาใจได้ว่าทุกขั้นตอนตั้งแต่ก่อนการขาย และหลังการขายจะได้รับการดูแลเหมือนเพื่อนสนิท ที่คอยอยู่เคียงข้าง ไม่ทอดทิ้งให้คุณต้องเผชิญปัญหาเพียงลำพังอย่างแน่นอน
ผู้ที่สนใจสามารถไปขอคำปรึกษา และติดต่อได้ที่ WINDSOR ได้ที่ Call Center 02 555 0333 หรือ
และสามารถประเมินราคาเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ที่ https://www.windsor.co.th/#PriceMatrix
หรือ Inbox ที่ https://www.facebook.com/Windsorpage/
ดูคลิปผลงานตัวอย่างจากหน้างานอื่นๆ (Reference Project) ได้ที่