ตึกสีแดงชาดนี้คืออะไร? นี่ไม่ใช่ตึก แต่เป็น Art piece ชิ้นโตของการหลอมรวมวัฒนธรรมอย่างกลมกล่อม ยากที่ในหนึ่งทศวรรษจะปรากฏมีออกมาประโลมสัมผัสทั้ง 5 ในวันพักผ่อนได้อย่างครบถ้วน
‘อำแดง’ โรงแรมแห่งใหม่ที่มีสถาปัตยกรรมสีแดงชาดโดดเด่น หากเปรียบเป็นผู้หญิงก็คงจะเป็นหญิงเชื้อสายไทย – จีน ผู้เลอโฉมในชุดสีแดงชาด เธอต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเป็นกันเองด้วยน้ำลิ้นจี่สีแดง และขนมกุฎีจีนในท่วงท่าการยืนที่ใครต่างต้องสะดุดตา ท่ามกลางบริบทริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ย่านกรุงเก่า ถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน ด้วยบุคลิกที่ดูโดดเด่นทั้งสีสัน และทรวดทรงที่มีอัตลักษณ์ และนั่นทำให้เรื่องราวของหญิงในชุดสีแดงชาดผู้นี้ น่าค้นหาอย่างหยุดยั้งได้ยาก
ในทุกระยะการเข้าใกล้ ‘อำแดง’ ทุกคนต่างตั้งคำถามว่า ทำไมชื่อถึงฟังดูแปลกหู แต่ในขณะเดียวกันกลับรู้สึกคุ้นเคยนั่นก็เพราะว่า ‘อำแดง’ เป็นคำขึ้นต้นที่ใช้เรียกผู้หญิงในสมัยก่อน ซึ่ง คุณเล็ก – พรรษพล ลิมปิศิริสันต์ หนึ่งในเจ้าของเล่าถึง คุณหมิ่น – วิบูลย์ ลีภักดิ์ปรีดา เพื่อนผู้ร่วมก่อตั้งโรงแรมแห่งนี้ว่า “หมิ่นได้พบกับที่ดินผืนนี้ พวกเราทึ่งตั้งแต่ตอนซื้อ และได้เห็นโฉนดโบราณที่มีขนาดใหญ่ พร้อมทราบว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานให้กับเจ้าของที่ดินคนแรก อำแดงคลี่” พวกเขาจึงตัดสินใจเก็บเรื่องราวในอดีตให้เป็นความเสน่หาของโรงแรมแห่งนี้
บนพื้นที่เกือบ 200 ตารางวาแห่งนี้ ถูกเรียกว่าเป็นที่มังกร เพราะมีลักษณะหัวโต และลำตัวยาว ซึ่งนั่นเป็นอีกเสน่ห์ของการเข้าถึงโรงแรมอำแดงอย่างยากจะละสายตา ระหว่างที่เดินผ่านทางยาวเข้าใกล้โรงแรมที่ดูเรียบง่าย ความอยากรู้อยากเห็นถูกกระตุ้นด้วยประตูทางเข้าที่มีขนาดเล็ก ทำให้ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะพบกับอะไรภายในอาคารสีแดงชาด แต่หากได้ลองย่ำก้าวแรกเข้าไปก็จะพบกับแสงไฟสลัวที่คอยประคองบรรยากาศให้เป็นกันเอง และทิศทางการออกแบบที่เจ้าของทั้งสอง “อยากให้อาคารเป็นศิลปะที่รวมวัฒนธรรมของสิ่งที่เกิดจริงของชาวจีน ชาวดัตช์ ชาวยุโรปในสมัยรัชกาลที่ 5”
กล่าวคือ ‘การออกแบบที่ย้อนยุคท่ามกลางบริบทยุคปัจจุบัน’ ภายในจึงมีกระจกเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลัก ซึ่งทำให้ผู้เข้าพักสามารถมองบริบทโดยรอบได้จากทุกส่วนของอาคาร โดยมีวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเหมือนความฝันของสองครีเอทีฟเพื่อนซี้แห่งเอเจนซี่ Monday และเจ้าของร่วมของโรงแรมแห่งนี้ ที่ต้องการทำเลริมน้ำ ทำให้แม้จะนั่งหันหลังก็สามารถรับชมวิวได้ เมื่อนั่งรับประทานอาหารที่ Nye Cafestaurant แต่หากพูดถึงภาพรวมสไตล์การตกแต่งนั้นจะมีความเป็นไทย dominate เคล้าคู่ไปกับสไตล์จีน “เพราะว่าเมืองไทยมีความเป็นจีนปะปนอยู่จนแทบแยกไม่ออกอยู่แล้ว” คุณเล็กกล่าว
รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีเรื่องราวของการผสมผสานความย้อนยุค ที่สะท้อนทั้งความเป็นไทย จีน และยุโรป คลอเคลียอยู่ทั่วอาคาร และทั้ง 3 Room Types สำหรับห้องที่ดีที่สุดเป็นห้อง River Suite ที่มีเพียง 2 ห้อง พร้อมพื้นที่ใช้สอยมากกว่าห้องรูปแบบอื่น รองลงมาก็จะเป็นห้อง Riverside Grand Deluxe โดยทั้งสองรูปแบบสามารถรับชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านลายขนมปังขิงบริเวณระเบียงได้จากทุกองศาของห้อง โดยเป็นความตั้งใจของเจ้าของที่อยากให้เป็น “การมองแม่น้ำผ่านความเป็นไทย”
และห้องรูปแบบสุดท้าย Deluxe Riverview สามารถมองวิวแม่น้ำในมุมที่เห็นเมืองเก่า และต้นโพธิ์สูงใหญ่อายุนับร้อยปีภายนอกอาคารที่ถูกหยิบยกเรื่องราวมาสู่ภายใน ด้วยโคมไฟใบโพธิ์สีดำที่สั่งทำขึ้นมาบริเวณล็อบบี้
การพักผ่อนท่ามกลางศิลปะ และวัฒนธรรม โดยใช้‘สัมผัสทั้ง 5’ เป็นการเติมเต็ม ความเป็นจริง ให้ผู้เข้าพัก เช่นเดียวกับ คอนเซ็ปต์ของโรงแรม The most romantic hotel in Bangkok ที่คุณเล็กเล่าว่า “เป็นความรู้สึกแรกของผู้มาเยือน ซึ่งเมื่อเราพูดออกไปทุกคนก็จะเห็นพ้องกัน ไม่ใช่สิ่งที่เราเมคอัพขึ้นมา” ดังนั้นการมาเยือน Hidden Hotel ‘อำแดง’ แห่งนี้จึงเป็นเหมือนการมาเยี่ยมผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเสน่ห์ น่าค้นหา แต่พอได้รู้จักแล้ว เธอกลับส่งมอบเรื่องราวด้วยความจริงใจ พร้อมอำนวยความสะดวกความสบายให้อย่างเต็มอิ่ม เป็นดั่งผู้หญิงที่ถือกำเนิดมาเพื่อต่อลมหายใจย่านกรุงเก่าให้วัฒนธรรมคงอยู่สืบไป
Story : นิชาภา โตยิ่งเจริญ
Photography : อรรถพงศ์ สมวงค์
Place : Amdaeng Hotel ซอยเชียงใหม่ 1 เขตคลองสาน โทร. 02 162 0138