Back to home
HOME, Makeover

Stay With Me หยุดพักการเคลื่อนไหวไว้ที่ความคลาสสิค

ธุรกิจที่พักแบบ Hostel กำลังเติบโตขึ้นมาก มาจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ที่นิยมการเที่ยวแบบ Backpack ที่ประหยัด และสะดวกสบาย D Hostel ก็คืออีกหนึ่ง Hostel ที่เกิดขึ้นมากมาย ณ ขณะนี้ แต่ทว่าสิ่งพิเศษที่ทำให้ D Hostel ต่างจากที่อื่นคือการออกแบบ ที่หลอมรวมเอาจิตวิญญาณของสถาปัตยกรรมแวดล้อมมาผสานเข้ากับการออกแบบสมัยสมัยใหม่ ได้อย่างลงตัว

The Beginning

ด้วยความที่มีประสบการณ์ในด้านการบริหารโรงแรมมาแล้วอย่างโรงแรม Feung Nakorn Balcony จึงทำให้คุณเบนซ์ ธันยาภรณ์ เปี่ยมวิริยะกุล ตัดสินใจจับธุรกิจ ที่พักอีกรูปหนึ่ง ที่กำลังเติบโตอยู่ในขณะนี้ อย่าง hostel โดยได้เลือกทำเล ตึกแถวบริเวณถนนบุญศิริ พื้นที่ 720 ตารางเมตร ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ จึงมากด้วยเสน่ห์ของความคลาสสิค และที่สำคัญยังใกล้สถานที่ยอดนิยมของชาวต่างชาติอย่างถนนข้าวสาร โดยได้ คุณนิว กิตติธัช นรเศรษฐกร สถาปนิกจาก Klickken Studio มาเป็นผู้เปลี่ยนโฉมอาคารเก่าหลังนี้

Inspiration

โจทย์การออกแบบ มาจากความชอบในสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ของคุณเบนซ์อยู่แล้ว การตกแต่งจึงต้องมีความคลาสสิค ทางสถาปนิกจึงพยายามที่จะดึงภาพลักษณ์ของบริบทแวดล้อมรอบเกาะรัตนโกสินธ์ และเสน่ห์ของกรุงเทพ อย่าง ชุมชน วัด วัง กระเบื้องเคลือบยุคต้นรัตนโกสินธุ์ มาผสมในการออกแบบ เพื่อให้อาคารหลังนี้คงความคลาสสิค กลมกลืนเข้ากับบรรยากาศแวดล้อม ในขณะเดียวกันก็ผสมความโมเดิร์นลงไปเพื่อสร้างความโดดเด่น มีคาแรกเตอร์ สะดุดตาเหล่า Backpacker

New Look

การนำความโมเดิร์นมาใช้ในการออกแบบ จึงมีการลดทอดรายละเอียดบางอย่างออกไป และตีความภาพลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีสขึ้นมาใหม่ ให้ร่วมสมัยมากขึ้น ในการออกแบบ Façade ได้แรงบัลดาลใจมาจากเทคนิคการขึ้นเส้นของรูปสถาปัตยกรรมใน AutoCAD ผสมกับการออกแบบสมัยนิยมอย่างแนว Factory ที่ใช้เหล็กเพื่อสร้างอารมณ์ดิบๆ จึงเกิดเป็นโครงเหล็กสีขาวที่วาดเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Colonial บนแผงเหล็กฉีกสีดำ ช่วยให้ Hostel แห่งนี้โดดเด่นออกจากอาคารรอบๆ อย่างชัดเจน

Function

ในส่วน Façade ที่เห็นเป็น Highlight ของการ renovate ครั้งนี้นั้น แท้จริงซ่อนฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นบันไดหนีไฟ ด้วยความที่ตึกแถวหรืออาคารพาณิชส่วนใหญ่ จะไม่มีบันไดหนีไฟที่ชัดเจนและใช้ได้จริง ทางสถาปนิกจึงคำนึงถึงความปลอดภัยในจุดนี้มากเป็นพิเศษ ซึ่งพื้นที่ ที่จะสามารถสร้างบันไดหนีไฟได้ เหลือเพียงที่แต่ข้างหน้าอาคารเท่านั้น สถาปนิกจึงออกแบบบันไดหนีไฟให้มาพร้อมกับความสวยงาม โดยใช้ Façade พรางสายตาด้านหน้า

ซึ่งมีวิศวกรมาคำนวณ การรับแรง ของคานด้านข้างที่ยื่น Façade ออกไปด้านหน้าอาคาร เพื่อให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมศาสตร์และเกิดความปลอดภัย โดย Façade ด้านที่มีบันไดยื่นออกมาจากผนังอาคาร 2.50 เมตร ส่วนอีกด้านที่เป็นทางเดิน ยื่นออกมาจากผนังอาคาร 1.20 เมตร

Interior

การตกแต่งภายในการเลือกใช้สีเขียวพาสเทลเพื่อให้บรรยากาศแบบยุค Colonial โดยมี sculpture ขนาดใหญ่ ฉลุโลหะเป็นภาพของสถานที่ต่างๆ รอบเกาะรัตนโกสินประดับอยู่ เป็นการสร้างจุดเด่นให้พื้นที่บริเวณ Lobby เกิดความน่าสนใจ ให้อารมณ์ความรู้สึกแข็งกร้าว ขณะเดียวกันก็ยังมีความอ่อนโยนจาก สีของผนังและเฟอร์นิเจอไม้สีอ่อน สำหรับการปูพื้นใช้กระเบื้องคอนกรีตลายพรหม ที่มีการพิมพ์สีลงในเบื้องตามแบบวิธีของชาวโปรตุเกสแบบดั้งเดิม ซึ่งทางสถาปนิกบอกว่ากระเบื้องชนิดนี้ยิ่งใช้ไปนานๆ ผ่านการเช็ดถู ก็จะยิ่งขึ้นเงาสวยงามคงทนต่อกาลเวลา

 

Story : ธนภัทร อีสา

Photographer : ชยพล ปาระชาติ

Host : ธันยาภรณ์ เปี่ยมวิริยะกุล

Architect : กิตติธัช นรเศรษฐกร

 

Facebook Comments
By Oom, 12/12/2017
Leave a Reply
Change language:
Instagram API currently not available.
Instagram API currently not available.