Back to home
GARDEN, Gardenista

Exotic Way เพราะรักจึงเข้าใจ

ความรักในพืชพันธุ์ เอาใจใส่ในต้นไม้ทุกต้น และเลือกที่จะแตกต่าง ก่อเกิดเป็นทางเดินของเขาเอง แม้แตกต่างแต่ก็งดงามไม่น้อยกว่าใคร

หาก “ ความรักคือความเข้าใจ ” สวนแห่งนี้ของคุณโป้ง ทัศไนย สินพานิช แห่ง TROPICAL GARDEN คงมีความรักบรรจุอยู่บนดินผืนนี้มากเป็นพิเศษแน่ๆ เพราะพันธ์ไม้แต่ละชนิดนั้นล้วนแต่เป็นพืช Exotic ที่เขาได้มาจากการเดินทางทั่วทุกมุมโลก นอกจากจะมีลักษณะแปลกตาจากต้นไม้บ้านเราแล้ว การดูแลนั้นก็ต้องยิ่งมีรายละเอียดที่แตกต่างจึงต้องการความเข้าใจมากไปด้วยเช่นกัน ซึ่งสวนของคุณโป้ง เป็นทั้งพื้นที่สำหรับความรักที่เขาบ่มเพาะ ดูแล ความรักของเขา และยังเป็นที่ที่เขาใช้ทดลองปลูกต้นไม้เพื่อศึกษา การเจริญเติบโต ด้วยตัวเอง

“ผมทำงาน ผมเอาสิ่งที่รักเป็นตัวตั้งครับ เงินก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เราเดินต่อได้ก็จริง แต่ถ้าเราเอาเงินเป็นตัวตั้ง เราก็จะไม่มีความสุข ต้นไม้ส่วนใหญ่ผมเอาลงดินทั้งหมด เพราะต้องการศึกษาว่าสิ่งที่ลูกค้ามาดูก็คือมันปลูกได้จริง ศึกษาการเจริญเติบโต มีพัฒนาการแบบไหน มีการเปลี่ยนรูปอย่างไร มีโรคบ้างหรือเปล่า เพื่อเก็บเป็นประสบการณ์ และสามารถไปแนะนำลูกค้าได้ ”

เมื่อเดินเข้ามาในสวน ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในภาพยนตร์แนวผจญภัยล่าสมบัติ ที่ต้องเดินทางข้ามทวีป แต่ที่นี่เราสามารถเดินทางจากป่าฝนไปยังทะเลทรายเพียงก้าวเท้าไม่ถึงสิบก้าว เพราะสวนแห่งนี้แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักมีพื้นที่ชิดกัน คือ Rain Forrest และ Sand Forest เกิดเป็นภาพความ Contrast ที่สวยงาม และแปลกตาในคราวเดียวกัน

ส่วนของ Rain Forrest สำหรับพืชสีเขียว มีใบ แบบป่าฝน อาทิ Giant Fern, Australian tree fern, Begonia, Sea Grape กะพ้อ หน้าวัว สับปะรดสี พี่โป้งบอกกับเราว่า พืชแต่ละชนิดจะนิสัยแตกต่างกัน ฉะนั้นจำเป็นต้องมีความรู้เรื่องพันธุ์ไม้เป็นอย่างดี ชอบแบบไหน อยู่แบบไหน จึงจะสามารถเลี้ยงมันได้ อย่างบอนสีเป็นต้นไม้ที่ต้องการความชื้นในอากาศค่อนข้างสูง ฉะนั้นมันต้องอยู่ใกล้ต้นไม้ที่คายน้ำเยอะ เพื่อให้ได้รับความเย็นเพียงพอ ส่วนฐานต้นไม้ใช้เปลือกสน หินภูเขาไฟ เป็นเครื่องปลูกเพราะเป็นคุณสมบัติ Drain น้ำได้ดี โปร่ง และเบา ต่างจากมะพร้าวสับที่ค่อนข้างแฉะ เพราะแท้จริงแล้วต้นไม้ชอบชื้นแต่ไม่ชอบแฉะ

ฝั่ง Sand Forest เป็นสวนกระบองเพชร อาทิ โคเปียโป (Copiapoa) แมมมีลาเลีย (Mammillaria) ปลูกภายใต้โรงเรือนกระจก เพื่อพรางแสงแดด ไม่ให้ผิวของของพืชสัมผัสแดดมากเกินไป ทำให้พืชมีสีสันสดสวยงาม โดยมีช่องอยู่ด้านข้าง เพื่อให้เกิดลมถ่ายเทเข้ามา จากอากาศเย็นลอยตัวต่ำลงสวนทางกับอากาศร้อนที่สูงขึ้น เพราะต้นไม้ตระกูลนี้ชอบอากาศถ่ายเท และต้องการน้ำน้อย

นอกจากนั้น นกฟินช์ นกปรอด ที่เลี้ยงแบบระบบเปิด บินไปมาทั่วทั้งสวน ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในป่าธรรมชาติจริงๆ โดยคุณโป้งบอกกับเราว่าอรรถประโยชน์ที่แท้จริงของมันคือกำจัดหนอนผีเสื้อ และแมลงที่เป็นศัตรูกับพืช แทนการใช้ยาฆ่าแมลง

การจัด Landscape วางพืชตามระดับความสูง ต่ำ กลาง ลดหลั่นกันไป มีระยะในการมอง มีจุดดึงสายตา อิงภาพของป่าธรรมชาติ เพื่อทำให้เกิดมิติทางสายตา ทำให้สวนมีมิติไม่เรียบแบน เป็นธรรมชาติมากที่สุด ส่วนของแนวทางเดินในสวน เน้นการใช้สัจจะวัสดุ ที่ดูกลมกลืนกัน และออกแบบทางเดินเชื่อมต่อเข้าถึงสวนได้ในทุกมุม

คุณโป้งเล่าว่าในบางครั้ง แม้เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ต่อให้ดึกแค่ไหนก็ขอขับรถมาที่สวนแห่งนี้ เพื่อมาเดินดูความเรียบร้อยสักรอบหนึ่ง เนื่องจากเป็นห่วงและคิดถึง เพราะสำหรับเขา ที่นี่เป็นสวนที่เขาทำด้วยความรัก ความเข้าใจ ต้นไม้ทุกต้นคือเพื่อนที่เขารู้จักดี “ เรารักมันเราจะเข้าใจมัน ” คุณโป้งกล่าว

“ สิ่งมหัศจรรย์ของต้นไม้ที่เกิดมาบนโลก คือมันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้แบบพึ่งพาอาศัยกัน ..แต่งต่างแต่สวยงาม ” คุณ

ทัศไนยกล่าวทิ้งท้าย

 

Story  : ธนภัทร อีสา

Photographer : อรรถพงศ์ สมวงศ์

Garden Designer : คุณ ทัศไนย สินพานิช บริษัท TROPICAL GARDEN

 

Facebook Comments
By Oom, 06/12/2017
Leave a Reply
Change language:
Instagram API currently not available.
Instagram API currently not available.