เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่จะทำให้คนมีความสุขมักเกิดจากการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ได้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัวท่ามกลางสภาพแวดล้อมตามแบบที่ชอบและต้องการ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเลือกพอใจแบบไหน แต่เมื่อได้นำทั้งสองปัจจัยมารวมอยู่ด้วยกันแล้ว ความสุขในการดำเนินชีวิตของแต่ละวันก็คงเกิดขึ้นได้ทุกวันเช่นกัน
การไปเยี่ยมชมบ้านในครั้งนี้เรามีโอกาสได้พบกับสถาปนิกหนุ่ม คุณบอย พงศ์ภัทร เอื้อสังคมเศรษฐ์ ซึ่งเป็นลูกเขยของครอบครัวรุจจนเวท ที่ออกมาต้อนรับทีมงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมกล่าวคำทักทายและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง คุณบอยเล่าให้ฟังว่า “บ้านหลังนี้เป็นของครอบครัว คุณปานดวงใจ ภรรยาผมครับ คุณพ่อเขาใกล้เกษียณก็เลยอยากย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดเพราะเบื่อความวุ่นวายในเมืองหลวง เลยมองหาพื้นที่ในจังหวัดนครปฐมเพราะเดินทางง่ายและอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก จนมาเจอที่ดินแปลงสวยถูกใจก็ตัดสินใจซื้อเพื่อปลูกบ้านหลังใหม่ ซึ่งผมเป็นคนออกแบบให้เองโดยคำนึงถึงอายุและความต้องการคุณพ่อคุณแม่เป็นหลัก คอนเซ็ปต์คือบ้านชั้นเดียวที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน อยู่ง่าย เย็นสบาย ให้ทุกคนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด โดยเน้นการเชื่อมต่อพื้นที่ในบ้านเพื่อความสัมพันธ์ของครอบครัวด้วยครับ”
จากความต้องการของครอบครัวรุจจนเวทถูกถ่ายทอดออกมาเป็นอาคารรูปทรงตัว L และอีกหนึ่งอาคารสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีรูปทรงสมมาตรตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่ครึ่ง โดดเด่นด้วยหลังคาทรงสูงสามเหลี่ยมตั้งฉาก 45 องศา เพื่อกันฝนและกรองแสงลดความร้อนก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน บริเวณด้านหน้าถูกดีไซน์ให้เป็นลาดจอดรถ วางคอร์ตสวนหย่อมสีเขียวขจีไว้ตรงกลางเพื่อให้มีความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและธรรมชาติ
เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านจะพบกับมุมนั่งเล่นเป็นอันดับแรก เปิดกว้างให้ความรู้สึกโปร่งโล่งไม่อึดอัดด้วยหลังคาทรงจั่ว จัดฟังก์ชั่นแบบ Open Plan โดยหลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เริ่มตั้งแต่มุมรับประทานอาหาร ระเบียงไม้ด้านนอก และครัว โดยที่สถาปนิกพยายามสร้างมุมมองให้ทั้งหมดของบ้านเอื้อต่อการมองเห็นต้นไม้ พยายามเลือกใช้กระจก Tempered Euro Grey เฉพาะในมุมสำคัญผ่านบานเฟี้ยมที่กรุโดยรอบตัวอาคาร ซึ่งก็ช่วยกันความร้อนก่อนเข้าบ้านได้อีกชั้นหนึ่ง ทั้งยังมีทางเดินสู่ห้องนอนและอาคารอีกหลังเล็กที่เชื่อมต่อกันเป็นอย่างดี โดยแนวคิดในการออกแบบนี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันและทำให้ทุกวันเป็นเหมือนการพักผ่อน
ถัดมาในส่วนของห้องนอนเจ้าของบ้านนั้นเน้นการตกแต่งอย่างเรียบง่าย คุมโทนห้องด้วยสีขาวสบายตา มีพื้นไม้เข้ามาช่วยเติมความอบอุ่นมากขึ้น ผสมผสานการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ทั้งแบบลอยตัวและบิลต์อินตามการใช้งาน ก่อนแบ่งพื้นที่อีกด้านหนึ่งให้เป็นห้องน้ำพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ต่อเนื่องมายังอาคารอีกหลังกันบ้างดีกว่าค่ะ คุณบอยเล่าเสริมว่า “อาคารหลังนี้เป็นบ้านของน้องชายคนเล็กครับ ซึ่งผมวางโจทย์หลักในการตกแต่งระหว่างบ้านสองหลังให้ต่างกันแต่ยังใช้คอนเซ็ปต์เดิมที่เรียบง่าย ปลอดโปร่ง เลยออกแบบรูปทรงของอาคารเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแยกสัดส่วนออกจากบ้านของคุณพ่อคุณแม่อย่างชัดเจน”
สำหรับภายในบ้านหลังนี้ตกแต่งในสไตล์มินิมอล โดยเน้นบรรยากาศที่เรียบง่ายอบอุ่น ดูสบายตาด้วยการเลือกใช้โทนสีขาวเป็นหลัก ตัวบ้านดีไซน์กระจกใสรายล้อมทำให้ภายในอาคารดูโปร่งโล่งสบาย และยังรับแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด โดยมีช่องทางเดินระหว่างห้องต่างๆ เปรียบเสมือนช่องลมที่คุณบอยออกแบบมาเพื่อเป็นทางให้ลมพัดผ่าน อากาศภายในบ้านจึงถ่ายเทตลอดวัน และไม่ร้อนอบอ้าวถึงขนาดต้องเปิดเครื่องปรับอากาศให้เปลืองพลังงาน
ท้ายที่สุดการได้มาเยือนบ้านหลังนี้ทำให้ผู้เขียนเข้าใจความหมายของคำว่าบ้านที่ไม่ได้เป็นเพียงที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสถานที่ที่เราสามารถพักใจจากเรื่องราวความวุ่นวายของโลกภายนอกได้อีกด้วย และความสุขของการอยู่บ้านก็ไม่ได้วัดกันที่ขนาดของพื้นที่ หากแต่ความสุขที่แท้จริงคือการที่สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเท่านั้นเอง
Story บุษราภรณ์ หวานชอบ
Photographer กรวิชญ์ ศิริวิวัฒน์, ธเนศ เปี่ยมหน้าไม้
Host ครอบครัวรุจจนเวท
Architect ANONYM โทร. 08-6065-2299