หากเอ่ยถึงวงการแฟชั่นระดับประเทศ คงหนีไม่พ้นไอคอนคนสำคัญที่มีอิทธิพลต่อวงการมายาวนานกว่า 30 ปี อย่างคุณสมชัย ส่งวัฒนา หรือคุณลิ้ม ผู้ก่อตั้ง Flynow แบรนด์สินค้าแฟชั่นชั้นนำของเมืองไทยที่มีชื่อเสียงยอมรับในระดับสากล และเจ้าของ “ช่างชุ่ย” อาณาจักรของงานศิลปะแห่งใหม่ สนามระเบิดความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ บนที่ดิน 11 ไร่ อย่างแน่นอน ผู้เขียนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาสัมผัสพลังแห่งความมุ่งมั่น ไขว้คว้า สร้างสรรค์ เพื่อก้าวข้ามขีดความสามารถของ ตัวเองสู่ความสำเร็จที่ไม่ได้แลกมาด้วยเงินตรา
“อุปสรรค คือ โจทย์ยากของทุกวัน ที่แสมือนของขวัญสำหรับชีวิต และยังเป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่ต้องทำมันให้สำเร็จ”
ด้วยปณิธานอันแรงกล้าทำให้ Flynow ยืดหยัดสู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเมืองไทยและไม่เคยหยุดพัฒนาแบรนด์ให้พุ่งทะยานสู่สากล แต่กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้คุณลิ้มต้องทลายกำแพงและขวากหนามขว้างกั้นอยู่มากมาย โดยเขาเล่าว่า “หากพูดถึงแบรนด์ Flynow ที่ก่อตั้งมาเนิ่นนานกว่า 30 ปี ต้องเรียนรู้ในศาสตร์ของแฟชั่นอย่างลึกซึ้งและบ่มเพาะประสบการณ์จนแกร่งกล้า โดยใช้อุดมการณ์ ความมุ่งมั่น วิริยะ และอุสาหะ แลกกับความสำเร็จที่นอกเหนือจากเรื่องทุนนิยม ซึ่งเป็นอีกความท้าทายหนึ่งของการสร้างแบรนด์ไทยให้มีที่ยืนในระดับโลก เป็นสิ่งที่ทำให้ผมได้ค้นพบว่าในทุกๆ ครั้งที่พบคำตอบของความสำเร็จบังเกิดขึ้น จงรีบไขว้คว้าความสำเร็จอื่นที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ”
ทว่าทุกคนล้วนมีความใฝ่ฝันที่แตกต่างกัน อย่างดีไซเนอร์ลุคอาร์ตติสที่ทุกคนรู้จักกันดีคนนี้ ได้ใช้ความมานะบากบั่นต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคที่เป็นโจทย์หิน โดยใช้ความเชื่อมั่นบวกกับความพยายามเอาชนะทุกสิ่งได้ดังที่คาดหวังจนเกิดแนวคิดเฉพาะที่เขาค้นพบ “คำตอบในเรื่องแฟชั่นไม่มีใครให้ความหมายได้เหมือนกัน ไม่ต่างกับความรักที่ต่างคนต่างมีมุมมองที่แตกต่างกัน สิ่งเหล่านี้จึงเกิดขึ้นจากความเชื่อ และทำในสิ่งที่เชื่อด้วยใจที่เต็มเปี่ยม”คุณลิ้มกล่าว
ภายใต้แว่นตากันแดดที่สวมรับกับรูปหน้าของกูรูแฟชั่นของเมืองไทยที่นั่งอยู่เบื้องหน้าผู้เขียน ไม่อาจหลบซ่อนจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ได้แม้แต่น้อย นอกจากแบรนด์ Flynow จะประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ คุณลิ้มได้คลอดอีกปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับเมืองไทยอีกครั้ง กับ “ช่างชุ่ย” Hub ไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ของคนรักศิลปะที่ได้กระแสตอบรับที่ดีจากคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง และรอคอยการเปิดตัวอย่างสมบูรณ์แบบเร็วๆ นี้ เสมือนการพยากรณ์ถึงสังคมปัจจุบันคนเราต่างกระหายที่จะตามหาแรงบันดาลใจ เพื่อมาผลักดันตัวตนจากจิตใต้สำนึกให้สามารถสร้างเส้นทางฝันในแบบฉบับของตัวเอง
สำหรับอาณาจักรของ “ช่างชุ่ย” เสมือนพื้นที่รวบรวมคนรุ่นใหม่สู่คนรุ่นกลางและคนรุ่นเก่าที่สื่อสารในภาษาเดียวกัน จึงเป็นศูนย์รวมงานศิลปะและไลฟ์สไตล์ที่เปิดกว้างให้ทุกคนสามารถนำแรงบันดาลใจกลับไปต่อยอดความฝันโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย พลางเสพย์ความสวยงามของศาสตร์ทางศิลปะ และอุตสาหกรรมทางความคิดได้ในทุกแขนง
“Notting is useless. ไม่มีสิ่งใดไร้ประโยชน์” คำนิยามแห่งดินแดนงานดีไซน์ของช่างชุ่ยที่ผู้ก่อตั้งได้กล่าวไว้ สะท้อนเจตนารมณ์ในด้านการคืนชีพผืนดินว่างเปล่าขนาด 11 ไร่ ให้กลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรมทางปัญญาที่อุดมไปด้วยจิตวิญญาณของคนรักศิลปะได้มาแลกเปลี่ยนไอเดีย เพื่อมาขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ไปพร้อมๆกัน ผู้เขียนเชื่อว่าแรงบันดาลใจเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่งที่สามารถส่งต่อถึงกันได้ การได้มาพบปะพูดคุยกับนักสร้างสรรค์แห่งวงการแฟชั่นระดับประเทศในครั้งนี้ ทำให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าประทับใจ และต่อยอดความฝันที่ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคอีกมากมาย เพื่อความสำเร็จที่จะเป็นรางวัลครั้งใหญ่ของชีวิต ดังประโยคสั้นๆ ระหว่างการสนทนากับคุณลิ้มที่ว่า “อุปสรรค คือ โจทย์ยากของทุกวัน ที่แสมือนของขวัญสำหรับชีวิต และยังเป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่ต้องทำมันให้สำเร็จ”
“ทุกครั้งที่พบคำตอบของความสำเร็จบังเกิดขึ้น จงรีบไขว้คว้าความสำเร็จอื่นที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ”
Story จันทพิมพ์ ศุกรสุต
Photographer ธเนศ เปี่ยมหน้าไม้
