เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 ได้มีชายผู้หนึ่ง ที่ตอนนี้แทบจะเป็นไอดอลของ Entrepreneur หรือเหล่า Star up ทั้งหลายทั่วโลก มาบรรยายที่ประเทศไทย ซึ่งชายผู้นี้ต่อสู้ฟันฟ่าชีวิตของเขา จนประสบความสำเร็จอย่างมาก และเขาก็ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ เขายังคงพัฒนาธุรกิจของเขาไปเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก “แจ๊ค หม่า”
“แจ๊ค หม่า” ถือได้ว่าเป็นคนที่ไม่เคยยอมแพ้ อุ้มเสียดายมากที่ไม่ทราบข่าวการมาบรรยายของแจ๊ค หม่า ในประเทศไทยมาก่อน ซึ่งอุ้มเชื่อว่าหลายๆ คนก็เสียดายเช่นกัน เพราะนอกจากแจ๊ค หม่า จะมีความสามารถที่โดดเด่นแล้ว เขายังมีทัศนคติที่ดีที่สามารถถ่ายทอด “พลังบวก” ออกมาให้ผู้ฟังได้อีกด้วย คุณก่ง-สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม ได้เขียนความประทับใจในการใช้เวลา 1 ชั่วโมงของเขาไปกับการฟัง “แจ๊ค หม่า” บรรยายที่กระทรวงต่างประเทศ ในเฟสบุ๊ค GengSittipong ว่า งานนี้ได้ทั้ง “ความรู้ ความคิด และพลัง” จริงๆ แจ๊ค หม่า เล่าว่าเขาเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีล้ม มีพลาด เหมือนคนอื่นๆ ทั่วไป เพราะฉะนั้น “อย่าเชื่อหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับเขา” เพราะมันมีทั้งจริง และไม่จริง แจ๊ค หม่า กล่าวกับผู้ฟังว่า ให้พยายามใช้สมองของเราในการ “คิด” ให้มาก ต้องเป็นคนที่มี “พลังบวก” และ “อย่ายอมแพ้!” “สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดในโลกคือการยอมแพ้ ส่วนสิ่งที่ยากที่สุดคือการกลับมาจากการยอมแพ้นั่นแหละ”
แจ๊ค หม่า เล่าว่า เขาชอบคุยกับคนที่มี Passion มีแรงบันดาลใจ เพราะเมื่อคุณมองตาคนเหล่านี้ คุณจะเห็นพลัง เห็นแรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเขาอยากทำงาน ซึ่งแววตาแบบนี้จะเห็นได้จากคนในบริษัทเล็ก พวก Small Business แต่เวลาคุยกับบริษัทใหญ่ แววตาเขาจะมีแต่ตัวเลข มีแต่เงิน เงิน เงิน “ไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับคนที่คิดถึงแต่เรื่องเงินหรอก มีแต่คนอยากเป็นเพื่อนกับคนที่มีพลัง มีแรงบันดาลใจ” การทำบริษัทเล็กๆ เหล่า Entrepreneur หรือ Start Up ทั้งหลาย ต้องใช้พลังอย่างมากในการสร้างความน่าเชื่อถือ และต้องไม่ลืมว่า สิ่งที่มีค่าที่สุด คือ “คำพูด”คุณเก่งเล่าว่า ประโยคหนึ่งที่แจ๊ค หม่า พูดบ่อยๆ ในการบรรยายนี้คือ “Convince people who trust you, and responsible for their trust” หรือแปลว่า ถ้าคุณโน้นน้าวให้คนอื่นเชื่อในสิ่งที่คุณทำแล้ว คุณก็ต้องรับผิดชอบในความเชื่อที่คนเหล่านั้นให้คุณมา หลังจากนั้นมีคนหนึ่งในงานบรรยาย ได้ตั้งคำถามแจ๊ค หม่า ว่า “แล้วเราจะโน้มน้าวคนอื่นได้อย่างไร ถ้าเราเป็นเพียงบริษัทเล็กๆ?” แจ๊ค หม่า ตอบได้อย่างชัดเจนว่า “Convince people by heart, convince people who want to be success, not the one already success.”
ความว่า อย่าไปโน้มน้าวบริษัทใหญ่ที่ประสบความสำเร็จแล้ว แต่ให้ไปคุยกับคนที่ต้องการจะประสบความสำเร็จจะดีกว่าอีกคำหนึ่งที่คุณเก่งเล่าว่าแจ๊ค หม่า กล่าวถึงบ่อยๆ ในงานคือคำว่า “Young Generation” และเชื่อเรื่อง “การศึกษา” จนเขาเองก็พูดออกมาว่า “เห็นผมพูดถึงแต่ Young people รักแต่คนรุ่นใหม่ ไม่สนใจคนรุ่นเก่า จนมีหลายคนไม่ชอบฟังผม” คำว่า “คนรุ่นใหม่” กับ “คนรุ่นเก่า” เป็น Generation Gap ที่หลายๆ คนไม่เข้าใจ ต่างคนต่างคิดว่าตนถูกเสมอ สำหรับแจ๊ค หม่า เขาเชื่อว่าถ้าเราเริ่มที่จะแคร์เด็กรุ่นใหม่เหล่านี้ เข้าใจในสิ่งที่เขาทำ สนับสนุนและเปิดรับ แล้วพวกเขาก็จะรักผู้ใหญ่เอง นี่เป็นเพียงสองสามทัศนคติสั้นๆ จากทั้งหมด 1 ชั่วโมงของการบรรยายของ “แจ๊ค หม่า” ผู้ชายที่มีพลังบวกในการทำให้หลายๆ คน “เชื่อ” และ “ศรัทธา” ในตัวเขา คุณเก่งเล่าว่าเขาประทับใจในการบรรยายของชายผู้นี้มาก และมองว่า “การพูด” เป็นบทบาทที่สำคัญมากในการโน้มน้าวให้คนเชื่อ ทำให้คนฟังได้นานโดยไม่เบื่อ แต่คนจะพูดได้ดี จะต้องมีความรู้ และสามารถตอบคำถามได้เร็วและชัดเจน มีการจัดระเบียบทางความคิดมาอย่างดี ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Alibaba เติบโตได้อย่างรวดเร็วและยิ่งใหญ่ขนาดนี้ นั่นคงเป็นเพราะ “พลังบวก” ของชายผู้นี้นี่เอง…