เส้นไหมที่ถูกถักทอเป็นผืนผ้าก่อนปรากฏลวดลายขึ้นอย่างประณีตละเอียดอ่อน เบื้องหลังความงดงามที่แฝงไปด้วยเรื่องราวและแรงบันดาลใจของผู้ออกแบบทำให้ผืนผ้าเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่า ที่ผู้เขียนกล่าวถึงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ “จิม ทอมป์สัน” ที่ได้ดึงเอกลักษณ์ของผ้าไหมไทย ด้วยฝีมือของคนไทย จนทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเวลาไม่นาน และสำหรับดีไซเนอร์ผู้สร้างสรรค์จนทำให้เกิดคอลเลชั่นผ้าตกแต่งบ้านรูปแบบใหม่ๆ มาให้ได้ยลกันนั้นคือคุณอู้ นพปฎล พหลโยธิน ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ผ้าตกแต่งบ้านจิม ทอมป์สัน กับผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณและตัวตนของความเป็นจิม ทอมป์สันอย่างเด่นชัด บ่งบอกถึงรสนิยมของกลุ่มชนชั้นสูงได้อย่างดีเยี่ยม
คุณอู้ออกมาต้อนรับทีมงานของใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และได้ทักทายแนะนำตัวเองกันพอหอมปากหอมคอ ก่อนที่ชายหนุ่มในลุคเซ็กซี่ชวนสะกดด้วยสายตาอันลุ่มลึก เขาเล่าให้เราฟังถึงหน้าที่หลักๆ ในการบริหารจิม ทอมป์สัน จนเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้ได้รับการยอมรับในตลาดโลกและกลายเป็นสัญลักษณ์ของผ้าไหมไทยไปโดยปริยาย ให้เราฟังว่า “ผมจะดูแลให้เกิดคอลเลคชั่นใหม่ๆ ปีละ 2 ครั้ง เนื่องจากผืนผ้าที่ผลิตนั่นส่วนใหญ่จะส่งออกจำหน่ายทั่วโลกกว่า 90% เพราะว่าในเมืองไทยจะเป็นที่รู้จักและนิยมใช้กันน้อยมากสำหรับผ้าตกแต่งภายใน แต่ถ้าพูดถึงในต่างประเทศแล้วตลาดของเราใหญ่มาก จิม ทอมป์สัน เป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับท็อป เป็นผ้าตกแต่งสำหรับอินทีเรียร์ และนักออกแบบตกแต่งภายในระดับอินเตอร์เลือกสรร ทั้งนี้ทุกแบรนด์ก็จะมีการเปิดตัวกันช่วงเดือนมกราคมซึ่งจะมีคอลเลคชั่นสปริง แล้วก็จะมีออกอีกครั้งในช่วงเดือนกันยายน”
สำหรับคอลเลคชั่นแรกประจำปี 2015 กับ FORBIDDEN COLOURS ถือเป็นการกลับมาสร้างสรรค์ผลงานในช่วงระยะเวลา 2 ปีของคุณอู้ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของสีสันผืนผ้าอาภรณ์ในอดีต ที่ครั้งหนึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกฐานะทางสังคมของผู้สวมใส่ ชายหนุ่มเล่าต่อว่า “เราค่อนข้างต้องใช้เวลาเพื่อดึงคอลเลคชั่นนี้ให้ออกมาเป็นตัวตนของจิม ทอมป์สัน มากที่สุด เพราะสิ่งที่เราถ่ายทอดออกไปก็อยากให้สอดคล้องกับผืนผ้าที่ จิม ทอมป์สัน เคยออกแบบมาก่อนหน้านี้ จุดเด่นคือจะมีความเป็นเอเชียค่อนข้างสูง จะเห็นว่าบริษัทต่างชาติส่วนใหญ่ก็จะพยายามทำกันเยอะ บ้างก็อยากให้ออกมาเป็นญี่ปุ่น บ้างก็อยากให้ออกมาเป็นอินเดีย แต่เขาก็สร้างขึ้นมาในฐานะที่เป็นต่างชาติทำ ซึ่งตรงนี้จะแตกต่างกับเราเพราะผมเป็นคนไทย และเป็นดีไซเนอร์ที่ได้ไปอาศัยอยู่เมืองนอก ฉะนั้นในผืนผ้าจึงมีเสน่ห์ของทั้งสองวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันในคอลเลคชั่นเดียว”
ทั้งนี้ดีไซเนอร์หนุ่มเซ็กซี่ยังเล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำงานว่า “ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝันว่าอยากได้มากกว่า คือแน่นอนว่าจะต้องมีกรอบบังคับเพราะในแบรนด์ของเราจะต้องมี Brand Image ที่ต้องสร้างและทะนุทนอมไว้ ซึ่งเราจะต้องชัดเจนตั้งแต่ตนว่า จิม ทอมป์สัน คืออะไร หรือ จิม ทอมป์สัน อยากเป็นอะไร เพราะฉะนั้นผมก็ต้องสร้างภาพลักษณ์นั้นไว้ จากนั้นก็ต้องดูในเรื่องของการตลาดด้วยว่าผ้าที่ออกแบบมานั้นจะไปตอบสนองตลาดประเภทไหนบ้าง อย่างเช่นคอลเลคชั่นที่ผ่านมาก่อนๆ เราก็ดีไซน์ตอบสนองในแถบแคลิฟอร์เนีย หรือฟลอริด้า ก็จะเน้นผ้าที่ใช้ภายนอกได้ ใช้ตามรีสอร์ต มีความทนแดด ทนฝน ทนต่อเชื้อรา เป็นต้น”
นอกจากจะหล่อ ครบเครื่องชวนค้นหาแล้ว ความเป็นคนกระตือรือร้น และไม่เคยคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จ ก็เป็นดั่งแรงบันดาลใจให้ชายหนุ่มก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งซึ่งเขาก็ยังมีปรัชญาในการทำงานที่เน้นย้ำกับเราว่า“ต้องพยายามฟังหูไว้หูเพราะดีไซเนอร์บางท่านทำงานกับเรามาประมาณ 30-40 ปี ซึ่งก็มีความรู้รอบตัวเกี่ยวกับการถักทอ การพิมพ์ผ้าเราก็อาศัยความเชี่ยวชาญในการทำงานของแต่ละท่านตรงนั้น แต่ในขณะเดียวกันเราฟังทางนั้นไว้ เราก็ต้องไว้อีกหูหนึ่ง ซึ่งตัวผมเองก็ต้องแสวงหาเรียนรู้สิ่งรอบตัวใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งสิ่งนั้นๆ จะต้องสร้างความตื่นเต้นในสายตาของเราด้วย คือไม่ละทิ้งสิ่งที่สร้างไว้ดีแล้ว แต่ทว่าก็นำของใหม่ใส่ผสมลงไปให้เกิดความลงตัว
ล่าสุดคุณอู้ก็เพิ่งเดินทางไปงาน “Paris Deco Off 2016” ซึ่งเป็นงานจัดแสดงคอลเลคชั่นผ้าล่าสุดจาก จิม ทอมป์สัน รวมถึงการตกแต่งภายในโดยดีไซเนอร์และผู้ผลิตจากทั่วโลกทั้งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ที่เข้าร่วมงานกว่า 100 คน ณ ประเทศฝรั่งเศส ที่ได้จัดขึ้นในช่วงวันที่ 21-26 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็ยังมีอีก 2 คอลเลคชั่นที่กำลังจะคลอดในไม่ช้า ซึ่งเขาพยายามจับคาเรกเตอร์ของความเป็น จิม ทอมป์สัน โดยมีกลิ่นอายของเอเชียผสานในผืนผ้าเพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้เป็นที่จดจำในตลาดโลก
ในอนาคตผู้เขียนเชื่อแน่ว่าวงการออกแบบจะต้องก้าวไปไกลอย่างแน่นอน ด้วยแรงผลักรอบกายที่ทำให้งานดีไซน์กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ทุกอย่างถูกครีเอทขึ้นรอบด้านและแน่นอนว่างานสร้างสรรค์มักสร้างจุดเด่นให้คนสนใจ สุดท้ายคุณอู้ก็ยังฝากถึงเด็กรุ่นใหม่ที่อย่างก้าวเข้ามาในวงการออกแบบว่า “สิ่งสำคัญที่สุดต้องอย่าท้อแท้ เพราะการจะเข้ามาในวงการยุคนี้ไม่เหมือนเมื่อครั้งที่ผมเข้ามา ตอนนั้นก็จะมีเพียงไม่กี่คนใครเข้ามารูปแบบไหนก็จัดว่าดี ซึ่งปัจจุบันประตูเล็กลง แต่สมาชิกอยากเข้ามาในกลุ่มดีไซน์เนอร์ค่อนข้างเยอะ โลกมีสิ่งใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ฉะนั้นจะต้องมีความกระตือรือร้นไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้”
Story : ศิวนาถ เสนาประทุม
Photographer : กรวิชญ์ ศิริวิวัฒน์