“หากการแต่งบ้านเป็นดั่งสุนทรีย์ศาสตร์ที่ก่อให้เกิดความงาม และความรื่นรมย์ นั่นคงเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่ไม่ต่างกันกับงานศิลปะ ที่เมื่อใดก็ตามที่เราหยุดเสพหรือชื่นชมสิ่งที่ได้รับคือความสุขในจิตใจ เช่นเดียวกับบ้านปูนเปลือยขนาดกะทัดรัดหลังนี้ เจ้าของคือคุณลำพู กันเสนาะ ศิลปินสาวสวยที่ได้บรรจงสร้างขึ้นในแบบของตัวเอง คล้ายงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ก่อนจะนำเอาองค์ประกอบต่างๆ จับวางใส่ลงไป เกิดเป็นโลกอีกใบที่สร้างความจรรโลงในจิตใจให้แก่ผู้อาศัยรวมทั้งผู้มาเยือนอย่างเราได้ไม่น้อย”
อาคารโมเดิร์นลอฟต์หลังนี้แฝงตัวอยู่ในวิถีของชาวชุมชนอัมพวา ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่เดิมในอาณาบริเวณของบ้านหลังเก่า กั้นความเป็นส่วนตัวกับเพื่อนบ้านด้วยท้องร่องเป็นทางยาว พร้อมทำระแนงทางเชื่อมระหว่างบ้านหลังเก่าและหลังใหม่เพื่อไม่ให้หลุดไปจากโครงสร้างเดิม แม้ว่ารูปทรงจะดูแตกต่างจากบ้านในระแวกเดียวกัน แต่คุณลำพูต้องการสร้างเป็นสถานที่เพื่อการพักผ่อนและเน้นความสบายโดยแท้จริง ฉะนั้นความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ที่เป็นของเดิม และปลูกเพิ่มไปนั้น บวกกับระแนงไม้โดยรอบอาคาร ก็ดูจะเข้าท่าและกลมกลืนไปกับบริบทโดยรอบไม่น้อย
ระหว่างที่ศิลปินสาวพาเดินชมรอบบ้าน เธอเล่าว่า “ช่วงที่สร้างบ้านหลังนี้เป็นจังหวะที่กำลังเรียนปริญญาโท ตอนนั้นคุณแม่ป่วยก่อนที่ท่านจะเสียจึงตัดสินใจกลับมาอยู่ที่บ้าน เมื่อก่อนบ้านหลังเก่าที่อยู่ด้านหลังจะมีโรงรถเล็กๆ เราก็จะใช้เป็นสถานที่ทำงานศิลปะ และช่วงนั้นก็เป็นปีที่ได้แสดงผลงานเดี่ยวครั้งแรก ซึ่งก็ขายงานได้เกือบทั้งหมด จึงนำเงินที่ได้มาสร้างบ้านหลังนี้ โดยชั้นล่างจัดสรรให้เป็นสตูดิโอและที่อยู่อาศัย แนวคิดหลักคืออยากให้บ้านอยู่แล้วรู้สึกสบายมากที่สุด และอีกอย่างคือต้องการให้กลมกลืนไปกับวิถีชุมชนของชาวอัมพวาโดยที่ไม่ผิดแผกออกไปมากนัก จึงเน้นให้มีระเบียงรอบๆ เพื่อให้เกิดสเปซที่กว้างขวาง และเน้นใช้วัสดุที่มีในพื้นที่เป็นหลัก”
เมื่อมองจากภายนอกบ้านหลังนี้ก็ดูจะโดดเด่นสะดุดตาตามโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมทรงกล่องสี่เหลี่ยมปูนเปลือยปกคลุมด้วยต้นหูกระจกที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา และต้นอโวคาโดที่สูงใหญ่ บริเวณทางเข้าด้านหน้าเพิ่มความเป็นธรรมชาติด้วยสระบัวที่ดีไซน์ยาวนานกับไปกับตัวอาคาร ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ชั้นล่างคุณลำพูตั้งใจให้เป็นสตูดิโอสำหรับสร้างสรรค์งานศิลปะของเธอ ซึ่งบางครั้งมีเฟรมชิ้นใหญ่ฉะนั้นเพื่อให้สะดวกในการขนย้าย และด้วยเทคนิคการทำงานของศิลปินที่ใช้สีน้ำมัน ซึ่งไม่สามารถเพ้นท์ในห้องแอร์ได้ จึงใช้ลมธรรมชาติสร้างความเย็นสบาย เธอจึงดีไซน์พื้นที่เปิดโล่งทั้งหมดด้วยประตูบานพับ ที่สามารถเปิดออกได้ทุกด้าน สามารถรับลมและแสงสว่างที่ส่องผ่านเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ห้องน้ำได้ถูกออกแบบให้แยกออกจากตัวบ้านเพื่อความเป็นสัดส่วนด้วย
ขณะที่ภายในถูกวางฟังก์ชั่นอย่างเป็นส่วนสัดให้อยู่ในสเปซเดียวกันหมด เธอบอกกับเราว่าพื้นที่ทำงานอยากได้ความเป็นบ้านผนวกเข้าด้วยกัน โดยได้ความอบอุ่นของไม้เข้ามาลดความดิบของปูนเปลือยได้อย่างดี ขณะเดียวกันก็เน้นเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวเพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของเก่าอาทิ ตู้เก็บของจากนครปฐม ขาจักรเก่าของคุณยายที่นำมาประยุกต์เป็นขาโต๊ะ บานหน้าต่างเก่าที่ถูกแปลงโฉมเป็นท็อปโต๊ะ ผสานกับเฟอร์นิเจอร์ใหม่อย่างเก้าอี้ และสตูล เป็นต้น ด้วยขนาดพื้นที่ที่มีจำกัด ศิลปินจึงได้ดีไซน์เทอเรซรอบอาคารด้วยไม้โพลีผสมขี้เลื่อย ด้วยขนาด 2x1x3x2 เมตร ยื่นออกมาจากตัวบ้าน ยิ่งเสริมให้พื้นที่บ้านดูกว้างขวาง และโปร่งโล่งสบายตามากยิ่งขึ้น นอกจากระเบียงดังกล่าวจะรองรับพื้นที่สังสรรค์แล้ว คุณลำพูยังบอกกับเราว่าบางครั้งเธอยังใช้เป็นพื้นที่ในการขึงเฟรม กระทั่งบันไดลอยขึ้นสู่ขึ้นสองก็ตาม ก็เป็นที่ตั้งของเฟรมขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน
สู่ชั้นบนจัดสรรให้เป็นห้องนอนขนาดย่อมซึ่งลักษณะคล้ายห้องใต้หลังคาตามความฝันในวัยเยาว์ของคุณลำพู ถูกมุงด้วยหลังคากระเบื้องยางแอสฟัลท์ วางเฟอร์นิเจอร์ตามการใช้งาน พร้อมติดกระจกวงกลมที่สามารถเปิดออกเพื่อให้ลมพัดผ่านได้ เชื่อมออกมายังรูฟท็อฟที่จัดสรรไว้เป็นลานกิจกรรมด้วยขนาดพื้นที่ 5×5 เมตร ปูหญ้าเทียมสีเขียวสดเพื่อให้สัมผัสที่นุ่มสบายเท้า อีกทั้งยังง่ายต่อการดูแลรักษา วางเสริมด้วยเตียงนอนหวาย และเก้าอี้หวาย จับคู่กับโต๊ะไม้ขนาดเล็ก วางไฟไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อเพิ่มความโรแมนติกยามค่ำคืน ส่วนนี้ศิลปินสาวมักจะใช้มานั่งสังสรรค์ระหว่างกลุ่มเพื่อน หรือแม้แต่นอนเล่นรับลมเย็นๆ ใต้ร่มเงาของต้นหูกระจกนั่นเอง
แม้บ้านจะถูกจำกัดในเรื่องของพื้นที่ เรากลับรู้สึกได้ถึงความสวยงามที่ไม่หวือหวา ทว่าดูเรียบง่ายอบอุ่นและน่าอยู่ ก่อนลากลับคุณลำพูยังยังบอกอีกว่าสำหรับเธอแล้ว ความสุขของการอยู่อาศัยกับงานศิลปะคือสิ่งเดียวกัน เพราะคือการได้อยู่กับสิ่งที่เรามีความสุข อยากเพิ่มเติม หรือลดทอนสิ่งใดก็ได้ตามใจปรารถนา บ้านหลังนี้เราคงจะอยู่ไปตั้งแต่บัดนี้จนแก่ชรา ก็เหมือนกับงานศิลปะที่จะลงมือสร้างสรรค์ไปจนแก่ด้วยเช่นกัน
Story : ศิวนาถ เสนาประทุม
Photographer : ธเนศ เปี่ยมหน้าไม้
Asst.Photographer : สกลวัฒน์ แซ่ลี้
Host : คุณลำพู กันเสนาะ